ฟิล์มติดกระจกหรือฟิล์มกรองแสงบ้านและอาคาร ที่นิยมใช้มีหลายชนิดและหลายประเภท ข้อดีข้อดีข้อด้อยในการเลือกใช้ให้เหมาะกับงานก็จะแตกต่างกันไป และนอกจากนั้นการเลือกใช้ก็อาจขึ้นอยู่กับสไตล์การตกแต่งและความชื่นชอบของเจ้าของบ้านเจ้าของอาคารอีกด้วย ฟิล์มเซรามิก และฟิล์มดำ ถือเป็นฟิล์มกรองแสงบ้านและอาคารที่ได้รับความนิยม ทั้งสองชนิดแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้มีคำแนะนำครับ
ฟิล์มเซรามิก คืออะไร
ฟิล์มเซรามิก คือ ฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้านและอาคารที่มีคุณลักษณะพิเศษ โดยเมื่อมองจากภายนอกจะไม่สามารถมองเห็นด้านในได้ แต่เมื่อมองจากด้านในออกไปข้างนอกจะมองเห็นได้สว่างชัดเจนและสบายตา
ฟิล์มดำ คืออะไร
ฟิล์มดำ คือ ฟิล์มสำหรับติดบ้านและอาคารที่มีความเข้ม เพราะถูกเคลือบด้วยสารต่าง ๆ ให้มีระดับความเข้มของฟิล์มหลายระดับ เช่น 40 %, 50 %, 60 %, 70 % หรือ 80% เพื่อป้องกันความร้อนได้ทุกระดับ และตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้
ข้อเสียของฟิล์มดำธรรมดาคืออะไรบ้าง?
ฟิล์มดำธรรมดา หรือที่เรียกอีกอย่างว่าฟิล์มย้อมสี หรือฟิล์มสีมาตรฐาน เป็นฟิล์มติดกระจกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดประเภทหนึ่งด้วยราคาที่ย่อมเยา แต่ฟิล์มดำธรรมดาก็มีข้อเสียหลายประการที่ควรทราบ ดังนี้
1. กันความร้อนได้ไม่ดีเท่าฟิล์มกรองแสงประเภทอื่น ๆ
ฟิล์มดำธรรมดาสามารถดูดซับแสงแดดได้ แต่ประสิทธิภาพในการกันความร้อนนั้นด้อยกว่าฟิล์มกรองแสงประเภทอื่น ๆ โดยเฉพาะฟิล์มเซรามิก
2. ป้องกันรังสี UV ได้ไม่ดีเท่าฟิล์มกรองแสงประเภทอื่น ๆ
ฟิล์มดำธรรมดาสามารถป้องกันรังสี UV ได้ประมาณ 40-60% ซึ่งน้อยกว่าฟิล์มกรองแสงประเภทอื่น ๆ โดยเฉพาะฟิล์มเซรามิกที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้มากถึง 99%
3. อาจทำให้ภายในบ้านหรืออาคารมืดทึบ
ฟิล์มดำธรรมดามีเฉดความเข้มให้เลือกหลากหลาย แต่หากเลือกที่มีความเข้มสูงอาจทำให้ภายในบ้านหรืออาคารมืดทึบ อึดอัด ส่งผลต่อสายตาและความปลอดภัยได้
4. อายุการใช้งานสั้นกว่าฟิล์มกรองแสงประเภทอื่น ๆ
ฟิล์มดำธรรมดาเป็นฟิล์มกรองแสงคุณภาพต่ำ ที่มีอายุการใช้งานน้อยกว่า 1 ปี สั้นกว่าฟิล์มกรองแสงประเภทอื่น ๆ ที่มีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี เป็นอย่างต่ำ
5. อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย
ฟิล์มดำธรรมดามีเนื้อฟิล์มที่ค่อนข้างบาง อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายจากการทำความสะอาด หรือการเสียดสี
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง ฟิล์มเซรามิก VS ฟิล์มดำ
ฟิล์มเซรามิก | ฟิล์มดำ |
ฟิล์มเซรามิก ถูกเคลือบด้วยวิธีแบบ Magnetron Sputtering ซึ่งเป็นการฝังอณูนาโนเซรามิกเข้าไปในชั้นเนื้อฟิล์มที่ผลิตมาจากพลาสติกโพลีเอสเตอร์ (Polyester) ทำให้มีความเหนียวและทนทาน | ฟิล์มดำ เป็นฟิล์มกรองแสงคุณภาพต่ำ ที่ถูกย้อมดำและไม่มีการเคลือบหรือฝังสารที่ช่วยกันความร้อนเข้าไปในเนื้อฟิล์ม ทำให้เมื่อติดฟิล์มดำจะทำได้เพียงลดแสงที่ส่องผ่านเข้ามาภายในเท่านั้น |
ฟิล์มเซรามิก มีความแข็งแรงทนทาน ไม่เป็นสนิม เพราะไม่ใช่โลหะ ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและทนทาน | 2. ฟิล์มดำ เป็นฟิล์มกรองแสงคุณภาพต่ำ อายุการใช้งานน้อยกว่า 1 ปี |
ฟิล์มเซรามิก เมื่อมองจากภายนอกแล้วจะไม่สามารถมองเห็นภายในได้ ป้องกันการมองเห็นทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน ช่วยสร้างความรู้สึกปลอดภัยภายในบ้านและอาคาร | 3. การติดตั้งฟิล์มดำ ผู้ที่อยู่ภายนอกไม่สามารถมองเห็นภายใน แต่คนที่อยู่ภายในยังมองเห็นภายนอกได้ แต่อาจไม่ชัดเจนมากนัก |
ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้าน ในอาคาร สามารถมองออกไปข้างนอกได้อย่างชัดเจน แต่ผู้ที่อยู่ภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาภายในได้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ ภายในบ้านในอาคาร | 4. การติดตั้งฟิล์มดำบ้านและอาคาร ให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้อยู่อาศัย เช่นเดียวกับฟิล์มกรองแสงชนิดอื่น ๆ |
ฟิล์มเซรามิกมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและทนทาน ทำหน้าที่สะท้อนรังสีความร้อน กันรังสียูวี กรองรังสีอินฟราเรด และสามารถลดความร้อนจากแสงแดดได้ดี | 5. การติดตั้งฟิล์มดำบ้านและอาคาร มีให้เลือกหลากหลายความเข้มตั้งแต่ 40 50 60 70 80 อาจป้องกันรังสียูวีได้ไม่ดี แต่การเลือกฟิล์มที่มีความเข้มมากก็จะยิ่งกันความร้อนได้ดี เพราะแสงผ่านเข้ามาน้อย |
คุณสมบัติที่สามารถป้องกันแสงแดดได้ดี ช่วยประหยัดพลังงานให้แก่บ้านและคอนโดได้อีกด้วย และฟิล์มเซรามิกของแท้ ราคาจะค่อนข้างสูง | 6. การติดตั้งฟิล์มดำบ้านและอาคาร กรณีต้องการมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกโดยที่ไม่มืดเกินไป การติดฟิล์มดำที่มีความเข้ม 40% จะเหมาะสมกับการใช้งาน |
ช่วยถนอมสายตาและผิว เนื่องจากสามารถลดความร้อนจากแสงแดด และสะท้อนรังสียูวี กรองรังสีอินฟราเรด ได้ดี | 7. การสะท้อนรังสียูวี หรือกรองรังสีอินฟราเรด ได้ดีมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับความเข้มของฟิล์มและการเลือกใช้งานที่เหมาะสม และราคาถูกกว่าฟิล์มเซรามิก |
ติดฟิล์มเซรามิก หรือ ฟิล์มดำ ดีกว่ากัน
เมื่อคุณได้เห็นความแตกต่างของฟิล์มทั้งสองประเภทนี้กันไปแล้ว ก็คงจะเกิดคำถามที่ว่า แล้วเราจะเลือกฟิล์มแบบใดดีล่ะ ที่จะเหมาะสมกับบ้านหรืออาคารมากที่สุด ซึ่งหากจะว่ากันที่เรื่องของความคุ้มค่าและความสามารถในเรื่องของการกรองแสงแล้วนั้น นับว่าฟิล์มทั้งสองประเภทนี้มีความใกล้เคียงกันมาก ๆ ซึ่งก็ทำให้การตัดสินใจนั้นยากไปสักหน่อยสำหรับผู้ที่ยังมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องฟิล์มติดบ้านและอาคารไม่มากพอ
แต่หากจุเปรียบเทียบกันที่เรื่องของอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่ากัน ก็ต้องขอยกให้กับฟิล์มเซรามิก ที่นอกจากจะสามารถกรองแสงได้ดีมากกว่าแล้ว ก็ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าอีกด้วยนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ในการติดฟิล์มการเลือกบริษัทรับติดตั้งฟิล์มกรองแสงในการติดที่ดี ที่มาพร้อมกับฟิล์มคุณภาพสูงนั้น จะช่วยทำให้บ้านของคุณสามารถใช้งานได้ยาวนานมากยิ่งขึ้นไปในตัว และทำให้การติดฟิล์มเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วยนั่นเอง

ข้อดีของฟิล์มเซรามิกคืออะไรบ้าง?
ฟิล์มเซรามิกเป็นฟิล์มกรองแสงที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีนาโนเซรามิก มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ดังนี้
1. กันความร้อนได้ดีเยี่ยม
ฟิล์มเซรามิกสามารถป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้ดีกว่าฟิล์มประเภทอื่น ๆ แน่นอนว่าดีกว่าฟิล์มดำด้วยเช่นกัน ช่วยให้ภายในบ้านและอาคารเย็นสบาย ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ จึงประหยัดพลังงานและลดภาระค่าไฟฟ้า
2. ป้องกันรังสียูวี
ฟิล์มเซรามิกสามารถป้องกันรังสียูวีได้มากกว่า 99% ช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน สิ่งของภายในบ้านและอาคารจากการซีดจาง พร้อมป้องกันผิวหนังจากริ้วรอย และลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง
3. มองเห็นวิวชัดเจน
ฟิล์มเซรามิกมีเนื้อฟิล์มใส จึงมองเห็นวิวภายนอกได้ชัดเจน ไม่เหมือนฟิล์มดำที่อาจทำให้ภายในบ้านและอาคารมืดทึบ จึงเหมาะกับบ้านและอาคารที่ต้องการแสงสว่างจากธรรมชาติ
4. ไม่สะท้อนแสง
ด้วยคุณสมบัติที่ไม่สะท้อนแสง จึงช่วยให้ภายในบ้านและอาคารดูสว่าง สบายตา และไม่เป็นการรบกวนผู้อื่นอีกด้วย
5. ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
ฟิล์มเซรามิกมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าฟิล์มประเภทอื่น ๆ รวมไปถึงฟิล์มดำด้วย โดยฟิล์มเซรามิกจะมีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 5-10 ปี เพราะทั้งทนทานต่อความร้อน รอยขีดข่วน สารเคมี ไปจนถึงสภาพอากาศและสภาพแวดล้อม ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
6. ไม่รบกวนสัญญาณ
ฟิล์มเซรามิกไม่รบกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือ, Wi-Fi และสัญญาณดิจิทัลใด ๆ ทั้งสิ้น
7. เพิ่มความเป็นส่วนตัว
ฟิล์มเซรามิกสามารถช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านและอาคารของคุณได้ โดยจะลดการมองเห็นจากภายนอกเข้าไปยังภายใน
ข้อควรระวัง
- ฟิล์มเซรามิกมีราคาสูงกว่าฟิล์มประเภทอื่น ๆ โดยเฉพาะฟิล์มดำ
- ควรเลือกฟิล์มเซรามิกจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
- ควรเลือกช่างติดตั้งที่มีประสบการณ์และความชำนาญ
ทำไมฟิล์มเซรามิก ถึงกลายเป็นฟิล์มยอดนิยม
ในปัจจุบันฟิล์มเซรามิกกลายเป็นฟิล์มกรองแสงที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงปีหลัง ๆ มานี้ โดยสาเหตุหลัก ๆ มาจากคุณสมบัติที่เหนือกว่าฟิล์มกรองแสงประเภทอื่น ๆ ดังนี้
1. กันความร้อนได้ดีเยี่ยม
ฟิล์มเซรามิกสามารถกันความร้อนจากแสงแดดได้ดีเยี่ยม โดยสามารถลดปริมาณความร้อนจากแสงแดดที่ผ่านเข้ามาในบ้านหรืออาคารได้ถึง 70-80% ช่วยให้บ้านหรืออาคารเย็นสบาย ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ จึงช่วยประหยัดพลังงานและค่าไฟฟ้า
2. ป้องกันรังสียูวีได้สูง
ฟิล์มเซรามิกสามารถป้องกันรังสียูวีได้สูงถึง 99% ช่วยป้องกันเฟอร์นิเจอร์, ของตกแต่งภายใน และผิวหนัง จากรังสียูวีที่เป็นสาเหตุของความเสื่อมโทรมและริ้วรอย
3. มองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้ชัดเจน
ฟิล์มเซรามิกมีสีดำเข้มจากด้านนอก แต่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกได้ชัดเจนจากด้านใน เหมาะสำหรับบ้านหรืออาคารที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
4. ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล
ฟิล์มเซรามิกไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล เช่น สัญญาณโทรศัพท์มือถือ หรือสัญญาณ Wi-Fi
5. มีอายุการใช้งานยาวนาน
ฟิล์มเซรามิกมีอายุการใช้งานยาวนานอย่างน้อย ๆ ก็ประมาณ 5-10 ปี หรืออาจจะมากกว่า 10 ปี ด้วยซ้ำ เนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพอากาศ
6. สวยงาม เรียบหรู
ฟิล์มเซรามิกมีสีดำเข้ม สวยงาม เรียบหรู เหมาะสำหรับติดตั้งกับบ้านหรืออาคารได้ทุกรูปแบบ
ปัจจัยอื่น ๆ ที่ทำให้ฟิล์มเซรามิกเป็นที่นิยม
- เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย
- ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล
- มีตัวเลือกหลากหลาย
- ราคาคุ้มค่า
ด้วยคุณสมบัติเด่นเหล่านี้ ฟิล์มเซรามิกจึงกลายเป็นฟิล์มยอดนิยม เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟิล์มกรองแสงที่มีประสิทธิภาพสูง เพราะฟิล์มเซรามิกเป็นฟิล์มกรองแสงที่มีคุณสมบัติ “เหนือกว่า” ฟิล์มกรองแสงประเภทอื่น ๆ เหมาะสำหรับบ้านและอาคารที่ต้องการกันความร้อน ป้องกันรังสียูวี รักษาความเป็นส่วนตัว ไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัล เพิ่มความสวยงาม เรียบหรู และใช้งานได้ยาวนาน ดังนั้นหากต้องการติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่มีประสิทธิภาพสูง ฟิล์มเซรามิกจึงเป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณา
สิ่งที่ต้องคำนึง เมื่อเลือกติดฟิล์มเซรามิก
ฟิล์มเซรามิกเป็นฟิล์มกรองแสงประเภทหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงในการกันความร้อน ป้องกันรังสียูวี ทนทาน และไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลต่าง ๆ แต่อย่างไรก็ตามฟิล์มเซรามิกมีราคาสูงกว่าฟิล์มประเภทอื่น ๆ ดังนั้นจึงควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ก่อนตัดสินใจติดตั้งฟิล์มเซรามิก
1. ทิศทางของแสงแดด
- บ้านหรืออาคารได้รับแสงแดดโดยตรงหรือไม่?
- หากบ้านหรืออาคารของคุณได้รับแสงแดดโดยตรง การติดฟิล์มเซรามิกจะช่วยลดความร้อนภายในบ้านได้
- แสงแดดส่องเข้ามาทางทิศไหน?
- ฟิล์มเซรามิกมีหลายระดับความเข้ม ควรเลือกให้เหมาะกับทิศทางของแสงแดด
2. ประเภทของอาคาร
- บ้าน
- อาคารสำนักงาน
- ร้านค้า
- สถานที่อื่น ๆ
ความต้องการในการใช้งานฟิล์มเซรามิกจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทของอาคาร
3. งบประมาณ
ฟิล์มเซรามิกมีราคาสูงกว่าฟิล์มประเภทอื่น ๆ จึงควรพิจารณางบประมาณของตนเองว่าเพียงพอหรือไม่ก่อนตัดสินใจติดตั้งฟิล์มเซรามิก
4. ร้านค้าและช่างติดตั้ง
ควรเลือกซื้อฟิล์มเซรามิกจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ และควรเลือกช่างติดตั้งที่มีความชำนาญ มากประสบการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าฟิล์มเซรามิกจะติดตั้งได้อย่างถูกต้อง สวยงาม และมีประสิทธิภาพ หรือจะเลือกเป็นบริษัทรับติดฟิล์มกระจกบ้านและอาคารที่มีทั้งฟิล์มและช่างผู้เชี่ยวชาญ ครบ จบในที่เดียวเสร็จสรรพ ก็จะสะดวกดีมาก ๆ
5. แบรนด์
ควรเลือกซื้อฟิล์มเซรามิกจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเชื่อถือได้ เพื่อความมั่นใจในคุณภาพของฟิล์ม
6. การรับประกัน
ควรเลือกติดตั้งฟิล์มเซรามิกที่มีการรับประกัน เพื่อคุ้มครองในกรณีที่ฟิล์มมีปัญหา
7. บริการหลังการขาย
ควรเลือกติดตั้งฟิล์มเซรามิกกับบริษัทที่มีบริการหลังการขายที่ดี
วิธีตรวจสอบ ฟิล์มเซรามิกแท้ เช็กเองได้แม้ไม่ใช่ช่าง
ต้องบอกว่าการตรวจสอบฟิล์มเซรามิกว่าแท้หรือไม่นั้น ถือเป็นมิชชั่นที่ท้าทาย เป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ด้วยตนเองได้ยากหากไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ แต่วิธีที่จะมาแนะนำในบทความนี้นั้น คุณสามารถนำไปลองใช้เพื่อเช็คฟิล์มเซรามิกในเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง
วิธีตรวจสอบฟิล์มเซรามิกแท้
1. ทดสอบด้วยไฟฉาย
ทดสอบในห้องที่มืด ๆ ไม่เปิดไฟ ลองส่องไฟฉายไปที่ฟิล์ม หากเป็นฟิล์มเซรามิกแท้จะไม่สะท้อนแสงไฟฉาย แต่หากเป็นฟิล์มเซรามิกปลอมจะสะท้อนแสงไฟฉาย
2. ตรวจสอบลักษณะฟิล์ม
ฟิล์มเซรามิกแท้จะมีสีดำสนิท ผิวสัมผัสเรียบเนียน ไม่มีรอยร้าว รอยขีดข่วน แต่หากมีผิวสัมผัสที่หยาบ มีเนื้อฟิล์มที่ไม่เรียบ หรือมีรอยร้าว อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าไม่ใช่ฟิล์มเซรามิกแท้
3. ทดสอบด้วยน้ำ
ลองพ่นน้ำใส่ฟิล์ม หากเป็นฟิล์มเซรามิกแท้น้ำจะเกาะเป็นเม็ด แต่หากเป็นฟิล์มเซรามิกปลอมน้ำจะไหลเป็นแผ่น
ฟิล์มเซรามิกแท้จะเป็นฟิล์มกรองแสงที่มีประสิทธิภาพสูง จึงมีราคาที่สูงตามไปด้วย เกิดเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพผลิตฟิล์มเซรามิกปลอมออกมาขายเพื่อฉวยโอกาส จึงควรตรวจสอบฟิล์มเซรามิกก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าได้ฟิล์มเซรามิกแท้ที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุด ทนทาน และคุ้มค่ากับราคา แต่อย่างไรก็ตามควรจำไว้ว่า การตรวจสอบฟิล์มเซรามิกแท้ด้วยตนเองอาจไม่ได้ให้ความมั่นใจที่สูงมาก หรือถูกต้อง 100% เป็นเพียงการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น หากมีความสงสัยควรสอบถามขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหรือช่างมืออาชีพที่มีความรู้และความชำนาญในเรื่องของฟิล์มเซรามิกจะดีที่สุด
ข้อควรระวังของฟิล์มเซรามิกเทียม
เรียกได้ว่าทุกวันนี้ฟิล์มเซรามิกแทบจะกลายเป็นฟิล์มกรองแสงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าฟิล์มกรองแสงประเภทอื่น ๆ มีประสิทธิภาพสูง ทนทาน และไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ฟิล์มเซรามิกจึงมีราคาที่สูง ทำให้มีมิจฉาชีพนำฟิล์มเซรามิกเทียมมาขายในราคาที่ถูกกว่าและหลอกลวงผู้บริโภคว่าเป็นฟิล์มเซรามิกแท้
ฟิล์มเซรามิกเทียม
ฟิล์มเซรามิกเทียมเป็นฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพต่ำ ผลิตจากวัสดุที่ด้อยคุณภาพ ไม่สามารถให้คุณสมบัติเหมือนฟิล์มเซรามิกแท้ และอาจส่งผลเสียต่อผู้ใช้งาน โดยจะมีข้อเสียต่างๆได้แก่
- ฟิล์มเซรามิกเทียมมีประสิทธิภาพในการกันความร้อนต่ำ กันความร้อนได้ไม่ดี ส่งผลให้ภายในบ้านหรืออาคารร้อนอบอ้าว อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
- ป้องกันรังสียูวีได้ไม่ดี ส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งภายใน หรือแม้กระทั่งผิวหนังของผู้อยู่อาศัย อาจเกิดความเสียหายจากรังสียูวีได้
- ฟิล์มเซรามิกเทียมมีอายุการใช้งานที่สั้น ไม่ทนทาน สีของฟิล์มอาจซีดจางลงหรือลอกล่อนภายในเวลาไม่นานเมื่อเทียบกับฟิล์มเซรามิกแท้ และสามารถเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายอีกด้วย
- ฟิล์มเซรามิกเทียมอาจรบกวนสัญญาณดิจิทัลต่าง ๆ เช่น สัญญาณโทรศัพท์มือถือ, อินเทอร์เน็ต
- ฟิล์มเซรามิกเทียมมักจะมีคุณสมบัติสะท้อนแสงจ้า ทำให้มองเห็นวิวภายนอกได้ไม่ชัดเจน
ฟิล์มเซรามิกเทียมเป็นฟิล์มที่ด้อยคุณภาพ ไม่คุ้มค่า มีข้อเสียมากกว่าข้อดี และส่งผลเสียต่อผู้ใช้งาน จึงควรทราบถึงข้อควรระวัง และเลือกซื้อฟิล์มเซรามิกแท้จากร้านค้าที่เชื่อถือได้ เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง ทั้งนี้ยังควรตรวจสอบโลโก้หรือฉลากของผู้ผลิต ขอใบรับประกัน และเลือกช่างติดตั้งที่มีความชำนาญด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าได้ฟิล์มเซรามิกแท้ ที่จะใช้งานได้อย่างยาวนาน และมีความคุ้มค่า
สรุป
ความแตกต่างระหว่าง ฟิล์มเซรามิก VS ฟิล์มดำ และสิ่งที่ต้องพิจารณา เมื่อเลือกติดฟิล์มเซรามิก หรือฟิล์มดำ เนื่องจากฟิล์มติดบ้านหรืออาคาร มีโอกาสโดนแดดอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเลือกฟิล์มชนิดใดระหว่างฟิล์มเซรามิก หรือฟิล์มดำ ควรเลือกที่มีคุณภาพเป็นฟิล์มบ้านหรืออาคารที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงการติดตั้งจากช่างติดตั้งฟิล์มที่น่าเชื่อถือ จึงจะส่งผลให้ฟิล์มกรองแสงเกิดประสิทธิภาพและทนทานต่อการใช้งานมากที่สุด