ปัจจุบันการออกแบบบ้านนิยมตกแต่งโดยใช้กระจกใสบานใหญ่ยาวติดตั้งเป็นผนัง หรือแบ่งกั้นห้อง และเป็นประตูหน้าต่าง รวมทั้งใช้เป็นส่วนประกอบในการตกแต่งภายใน นอกจากความสวยงาม ยังทำให้พื้นที่คับแคบดูกว้างขวาง เพิ่มการมองเห็นทัศนียภาพด้านนอกได้ดี ส่วนฟิล์มติดกระจกบ้านเหมือนหรือแตกต่างกับฟิล์มติดรถยนต์อย่างไร เพื่อคลายความสงสัย บทความนี้มีคำตอบ ครับ
ฟิล์มติดกระจกบ้านแตกต่างกับฟิล์มติดรถยนต์อย่างไร
การใช้ประโยชน์และคุณสมบัติของฟิล์มติดกระจก คือสามารถกรองแสงและลดแสงที่ผ่านเข้ามาในตัวบ้าน ภายในรถยนต์ อีกทั้งให้ความเป็นส่วนตัวเมื่ออยู่ภายในอาคารหรือภายในรถยนต์ จากประโยชน์การใช้งานเหล่านี้ หลายคนอาจมีคำถาม ฟิล์มติดกระจกบ้านเหมือนหรือแตกต่างกับฟิล์มติดรถยนต์ และสามารถใช้งานร่วมกันได้หรือไม่ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ได้ดังนี้
ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของฟิล์มติดกระจกบ้านกับ ฟิล์มติดรถยนต์
ฟิล์มติดกระจกบ้าน | ฟิล์มติดรถยนต์ | ความเหมือน/ความแตกต่าง |
1.ออกแบบมาเพื่อใช้ติดกระจกบ้าน หรืออาคารโดยเฉพาะ | ใช้ติดกระจกรถยนต์ /กระจกบ้าน อาคาร | การใช้งานแตกต่างกัน |
3.ผลิตด้วยโพลิเอสเตอร์ | ผลิตด้วยโพลิเอสเตอร์ | ผลิตด้วยโพลิเอสเตอร์เหมือนกัน |
4.สะท้อนแสงได้มาก เนื่องจากคนอยู่อาศัยต้องการความเป็นส่วนตัวสูง | สะท้อนแสงได้ไม่มาก เนื่องจากรถยนต์ต้องขับขี่บนท้องถนน | ฟิล์มติดอาคารมีความสะท้อนแสงมากกว่า |
5.ออกแบบให้มีความหนากว่า เหนียวกว่า ทนแดดทนฝนมากกว่า เพราะมีด้านที่โดนแดดข้างเดียวทั้งวัน | สามารถเคลื่อนย้าย หลบแดด หลบฝนได้ การออกแบบและการผลิตจึงทนแดด ทนฝอย ได้น้อยกว่า | มีความหนา และความคงทนแตกต่างกัน |
6.ป้องกันแสงแดดหรือความร้อน | ใช้ป้องกันแสงแดดหรือความร้อน | มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดหรือความร้อนเหมือนกัน |
7.มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าฟิล์มติดรถยนต์ | มีความยืดหยุ่นมาก เพราะต้องรีดฟิล์มไปตามส่วนโค้งเว้าของกระจก | ความยืดหยุ่นแตกต่างกัน |
8.ฟิล์มติดกระจกบ้าน อาคาร รับประกันยาวนานมากกว่า 7 ปี | ฟิล์มติดกระจกรถยนต์ การรับประกัน 5 – 7 ปี | การรับประกันยาวนานกว่า |
9.ไม่สามารถนำไปติดรถยนต์ได้ | ใช้ติดอาคารได้ แต่ฟิล์มติดรถยนต์รับประกัน 7 ปี ถ้านำมาติดอาคาร อาจจะเหลือรับประกันเพียง 5 ปี เท่านั้น | การใช้งานและอายุการรับประกันลดลง |
10.ฟิล์มติดกระจกบ้าน อาคาร มีชนิดของกาวเนื้อฟิล์มที่หนากว่า | ฟิล์มติดรถ มีชนิดของกาวเนื้อฟิล์มที่บางกว่า และชั้นฟิล์มต่างกัน | ความหนาและชั้นฟิล์มต่างกันเพราะรถยนต์เคลื่อนที่ตลอดเวลา ทำให้รับแสงแดดได้น้อยกว่าอาคาร |
ฟิล์มติดกระจกบ้าน ฟิล์มติดรถยนต์ มีประโยชน์อย่างไร
ฟิล์มติดกระจกบ้านและฟิล์มติดรถยนต์ เป็นฟิล์มกรองแสงที่ช่วยลดความร้อน ลดแสงจ้า ป้องกันรังสียูวี และสะท้อนความร้อนได้ดี นอกจากนั้นฟิล์มติดกระจกบ้านติดกระจกรถยนต์ ยังมีประโยชน์อีกมากมายหลายด้าน เช่น
- ฟิล์มติดกระจกบ้านและฟิล์มติดรถยนต์ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว
- ฟิล์มติดกระจก มีคุณสมบัติกรองแสง ช่วยลดความร้อน ลดแสงจ้า
- ฟิล์มติดกระจกบ้าน ช่วยลดความร้อนภายในอาคาร ประหยัดพลังงานเครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนัก ทำให้ประหยัดค่าไฟ
- ฟิล์มติดกระจก ช่วยปกป้องผิว เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยกรองรังสียูวีที่เป็นสาเหตุทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดฝ้า ริ้วรอย และมะเร็งผิวหนัง
- การติดฟิล์มกรองแสงลงบนกระจก กาวของฟิล์มจะช่วยป้องกันการแตกกระจายของกระจกช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากแตกของกระจกได้ดี
- ช่วยชะลอการซีดจางและเสื่อมสภาพของวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งภายในรถยนต์ ตกแต่งภายในบ้านและอาคาร
- ฟิล์มติดกระจกบ้าน สร้างสไตล์การตกแต่ง เพิ่มความสวยงามให้กับตัวบ้าน อาคาร คอนโด หรือสำนักงาน
สำหรับคนที่กำลังวางแผนตกแต่งบ้าน อาคาร คอนโด หรือตกแต่งสำนักงานด้วยการติดฟิล์มกระจก รวมถึงคนต้องการติดฟิล์มรถยนต์ แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกอย่างไร ฟิล์มติดกระจกบ้านเหมือนหรือแตกต่างกับฟิล์มติดรถยนต์อย่างไร และฟิล์มติดกระจกทั้งสองประเภทสามารถใช้แทนกันได้หรือไม่ ควรเลือกแบบไหนดี รวมทั้งการติดฟิล์มแต่ละประเภทมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้คงเป็นคำตอบได้ดี นะครับ
ฟิล์มติดอาคารกับฟิล์มรถยนต์ ติดแทนกันได้ไหม?
แม้จะมีบางด้านที่เหมือนกัน อย่างผลิตด้วยโพลิเอสเตอร์เหมือนกัน มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงแดดหรือความร้อนเหมือนกัน และมีการรับประกันที่ยาวนานทั้งคู่ แต่ต้องไม่ลืมพิจารณาถึงข้อจำกัดและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน คือ
ฟิล์มติดอาคาร
- เหมาะสำหรับติดกระจกอาคาร โดยเฉพาะกระจกที่มีขนาดใหญ่ กระจกโค้ง หรือกระจกที่มีมุม
- มีความหนาและเหนียวกว่าฟิล์มติดรถยนต์
- สะท้อนแสงได้มากกว่าฟิล์มติดรถยนต์
- รับประกันนานกว่าฟิล์มติดรถยนต์
ฟิล์มติดรถยนต์
- เหมาะสำหรับติดกระจกรถยนต์โดยเฉพาะ
- มีความยืดหยุ่นกว่าฟิล์มติดอาคาร
- สะท้อนแสงได้น้อยกว่าฟิล์มติดอาคาร
- รับประกันสั้นกว่าฟิล์มติดอาคาร
ดังนั้น จะมาเป็นฟิล์มเหมือนกันไม่ได้ ฟิล์มติดอาคารไม่สามารถติดกระจกรถยนต์ได้ เนื่องจากฟิล์มติดอาคารมีความหนาและเหนียวกว่าฟิล์มติดรถยนต์ เพื่อให้ทนทานต่อแสงแดดและฝน ฟิล์มติดอาคารจึงไม่สามารถรีดให้โค้งตามกระจกรถยนต์ได้ หากนำมาติดกระจกรถยนต์อาจทำให้ฟิล์มไม่แนบสนิทกับกระจกรถ อาจหลุดลอกได้ง่ายและเกิดอันตรายได้ อีกทั้งฟิล์มติดอาคารยังสะท้อนแสงได้มากกว่าฟิล์มติดรถยนต์ หากนำฟิล์มติดอาคารมาติดกระจกรถยนต์อาจทำให้บดบังทัศนวิสัยในการขับขี่ ทำให้มองเห็นถนนและสภาพแวดล้อมภายนอกได้ไม่ชัดเจน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายในการขับขี่ได้
ส่วนฟิล์มติดรถยนต์สามารถนำมาติดกระจกอาคารได้ แต่อายุการรับประกันฟิล์มอาจลดลง โดยทั่วไปแล้วฟิล์มติดรถยนต์จะมีอายุการรับประกันประมาณ 7 ปี แต่หากนำฟิล์มติดรถยนต์มาติดอาคารอาจจะเหลืออายุการรับประกันเพียง 5 ปี เท่านั้น
ดังนั้น คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า “ฟิล์มติดอาคารกับฟิล์มรถยนต์ ติดแทนกันได้ไหม” ก็ต้องขอตอบว่า ไม่ควร และไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ทดแทนกัน เนื่องจากฟิล์มติดอาคารและฟิล์มติดรถยนต์มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการใช้งานได้ เพราะฉะนั้นหากต้องการติดฟิล์มกรองแสง ควรเลือกฟิล์มที่เหมาะสมกับการใช้งานและลักษณะของกระจก เพื่อให้ได้ฟิล์มที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการและการใช้งานจะดีที่สุด
สรุปแล้วฟิล์มรถยนต์ กับฟิล์มอาคาร ต่างกันอย่างไร?
จากข้อมูลข้างต้น สรุปได้ว่าฟิล์มรถยนต์และฟิล์มอาคารมีความแตกต่างใน 6 ด้านหลัก ๆ ดังนี้
- การใช้งาน: ฟิล์มรถยนต์ใช้ติดกระจกรถยนต์ ส่วนฟิล์มอาคารใช้ติดกระจกอาคาร
- ความสะท้อนแสง: ฟิล์มอาคารมีความสะท้อนแสงมากกว่าฟิล์มรถยนต์ เนื่องจากผู้อยู่อาศัยต้องการความเป็นส่วนตัวสูง
- ความหนา: ฟิล์มอาคารมีความหนาและเหนียวกว่าฟิล์มรถยนต์ เนื่องจากต้องทนแดดทนฝนมากกว่า
- ความยืดหยุ่น: ฟิล์มรถยนต์มีความยืดหยุ่นมากกว่าฟิล์มอาคาร เนื่องจากต้องรีดฟิล์มไปตามส่วนโค้งเว้าของกระจกรถยนต์
- การรับประกัน: ฟิล์มอาคารมีการรับประกันยาวนานกว่าฟิล์มรถยนต์
- การใช้งานร่วมกับฟิล์มอื่น ๆ : ฟิล์มอาคารไม่สามารถนำมาติดรถยนต์ได้ เนื่องจากความหนาและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ ฟิล์มรถยนต์และฟิล์มอาคารยังมีความแตกต่างในรายละเอียดอื่น ๆ เช่น ชนิดของกาว เนื้อฟิล์ม และชั้นฟิล์ม ดังนี้
- ชนิดของกาว: ฟิล์มอาคารจะมีกาวที่หนากว่าฟิล์มรถยนต์ เนื่องจากต้องทนแดดทนฝนมากกว่า
- เนื้อฟิล์ม: ฟิล์มอาคารจะมีเนื้อฟิล์มที่หนากว่าฟิล์มรถยนต์ เนื่องจากต้องทนแดดทนฝนมากกว่า
- ชั้นฟิล์ม: ฟิล์มอาคารจะมีชั้นฟิล์มที่มากกว่าฟิล์มรถยนต์ เนื่องจากต้องกรองแสงและความร้อนได้มากกว่า
โดยสรุปแล้ว ฟิล์มรถยนต์และฟิล์มอาคารมีความแตกต่างกันในการใช้งานและคุณสมบัติเฉพาะ ฟิล์มรถยนต์ออกแบบมาเพื่อติดกระจกรถยนต์โดยเฉพาะ จึงมีความยืดหยุ่นสูงเพื่อให้สามารถรีดให้โค้งตามกระจกรถยนต์ได้ นอกจากนี้ฟิล์มรถยนต์ยังสะท้อนแสงได้น้อยกว่าฟิล์มอาคาร เนื่องจากรถยนต์ต้องขับขี่บนท้องถนนและจำเป็นต้องมองเห็นสภาพแวดล้อมภายนอกได้ชัดเจน ส่วนฟิล์มอาคารออกแบบมาเพื่อติดกระจกอาคารโดยเฉพาะ จึงมีความหนาและเหนียวกว่าฟิล์มรถยนต์ เพื่อให้ทนทานต่อแสงแดดและฝน นอกจากนี้ฟิล์มอาคารยังสะท้อนแสงได้มากกว่าฟิล์มรถยนต์ เนื่องจากอาคารไม่จำเป็นต้องมองเห็นสภาพแวดล้อมภายนอกให้ชัดเจนก็ได้ สามารถขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานได้เลย
หากสนใจบริการติดตั้งฟิล์มกรองแสง ฟิล์มกันความร้อนบ้าน อาคาร สามารถติดต่อบริษัท SB sticker รับติดฟิล์มกระบ้านได้ผ่านช่องทางต่างๆในเว็บไซน์นี้เลยครับ