ฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคารเป็นวัสดุที่มีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน สืบเนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยที่เป็นเมืองร้อน ประกอบกับแสงแดดที่มีปริมาณเข้มข้นตลอดทั้งปี สองปัจจัยนี้ล้วนส่งผลเสียต่อบ้านและอาคารทั้งในเรื่องปัญหาความร้อนสะสมภายในบ้านไปจนถึงอันตรายจากรังสียูวีที่เป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพหลายอย่างของผู้อยู่อาศัย การติดฟิล์มที่กระจกบ้านและกระจกอาคารสามารถลดผลกระทบเหล่านี้ได้อย่างน่าพอใจ อีกทั้งยังให้ความสวยงามและความเป็นส่วนตัวแก่ผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
การติดฟิล์มกระจกบ้าน กระจกอาคาร เป็นสไตล์การตกแต่งที่เน้นความโปร่ง โล่ง เหมาะกับสไตล์การออกแบบ ที่ปัจจุบันนิยมแนวสมัยใหม่ สไตล์มินิมอล หรือสไตล์โมเดิร์น และฟิล์มติดกระจกบ้านยังมีหลายแบบขึ้นอยู่ที่แต่ละบริษัทรับติดฟิล์มบ้านและอาคารว่าจะมีฟิล์มชนิดไหนบ้าง สามารถเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเจ้าของบ้านได้ทั้งแบบใสกันร้อนหรือแบบทึบแสงเพิ่มความเป็นส่วนตัว อีกทั้งการติดฟิล์มกระจกบ้าน ยังมีประโยชน์อีกมากมาย บทความนี้ SB Sticker จะพาไปดูว่าเมื่อติดตั้งฟิล์มกระจกบ้านและอาคารแล้ว เราจะได้รับประโยชน์อะไรกลับมาบ้าง
วิธีเลือกฟิล์มแต่ละชนิดให้เข้ากับบ้าน
วิธีเลือกฟิล์มแต่ละชนิดให้เข้ากับบ้านนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของบ้าน โดยสามารถพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
1. ทิศทางของบ้าน
บ้านแต่ละทิศจะได้รับแสงแดดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกฟิล์มจึงควรพิจารณาจากทิศของบ้านเป็นหลัก โดยบ้านที่อยู่ทิศตะวันตกและทิศใต้จะได้รับแสงแดดจัดจ้ามากที่สุด จึงควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มสูงเพื่อลดความร้อนจากแสงแดด
2. ลักษณะการใช้งานภายในบ้าน
ภายในบ้านแต่ละหลังมีการใช้งานแต่ละห้องที่แตกต่างกัน เช่น ห้องนอนควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มสูง เพื่อให้ห้องเย็นสบายและเพิ่มความเป็นส่วนตัว ส่วนห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงานอาจเลือกฟิล์มที่มีความเข้มปานกลาง เพื่อให้มองเห็นวิวภายนอกได้ชัดเจน
3. งบประมาณ
ฟิล์มแต่ละชนิดมีราคาแตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกฟิล์มจึงควรพิจารณาจากงบประมาณเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่แล้วฟิล์มที่มีความเข้มสูงมักจะมีราคาสูงกว่าฟิล์มที่มีความเข้มต่ำ
4. ความสวยงาม
ฟิล์มแต่ละชนิดมีทั้งแบบที่ไม่มี และมีสีสันไปจนถึงลวดลายที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกฟิล์มจึงควรพิจารณาถึงความสวยงามของบ้านด้วย โดยควรเลือกฟิล์มที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งของบ้าน
5. การดูแลรักษา
ฟิล์มแต่ละชนิดมีวิธีการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกฟิล์มจึงควรพิจารณาถึงวิธีการดูแลรักษาด้วย เพราะฟิล์มบางชนิดอาจต้องทำความสะอาดบ่อยครั้ง
การเลือกฟิล์มแต่ละชนิดให้เข้ากับบ้านนั้น ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้น เพื่อให้ได้ฟิล์มที่ตอบโจทย์ความต้องการและลักษณะการใช้งานของบ้านมากที่สุด
ตัวอย่างการเลือกฟิล์มแต่ละชนิดให้เข้ากับบ้าน
- ห้องนอน: ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มสูง เพื่อให้ห้องเย็นสบาย และเพิ่มความเป็นส่วนตัว
- ห้องนั่งเล่น: ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มปานกลาง เพื่อให้มองเห็นวิวภายนอกได้ชัดเจน
- ห้องครัว: ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มปานกลาง เพื่อให้มองเห็นอุปกรณ์ภายในห้องได้ชัดเจน
นอกจากตัวอย่างการเลือกฟิล์มให้เข้ากับบ้านแล้ว ยังมีสำหรับอาคารสำนักงานและโรงงานมาฝากเป็นพิเศษอีกด้วย
อาคารสำนักงาน
- ห้องประชุม: ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มสูง เพื่อให้ห้องเย็นสบาย และลดแสงสะท้อนจากหน้าจอคอมพิวเตอร์
- ห้องทำงาน: ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มปานกลาง เพื่อให้มองเห็นวิวภายนอกได้ชัดเจน สร้างบรรยากาศในการทำงานที่สบายตา ไม่อึดอัด
- ห้องโถงต้อนรับ: ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มต่ำ เพื่อให้มองเห็นทัศนียภาพภายนอกได้อย่างชัดเจน
โรงงาน
- โรงงานผลิต: ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มสูง เพื่อลดความร้อนจากแสงแดด และป้องกันอันตรายจากแสงจ้า
- โรงงานเก็บสินค้า: ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มปานกลาง เพื่อให้มองเห็นสินค้าภายในได้ชัดเจน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับประเภทและคุณลักษณะของสินค้าด้วย
คำแนะนำ หากยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกฟิล์มแบบไหนดี แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการและลักษณะการใช้งานของบ้าน
ติดฟิล์มคอนโด ควรเลือกใช้บริการช่างมืออาชีพ
การติดฟิล์มคอนโดเป็นงานที่มีความละเอียดอ่อน หากติดฟิล์มไม่ถูกวิธีอาจทำให้ฟิล์มมีอายุการใช้งานสั้นลงหรือเกิดปัญหาอื่น ๆ ได้ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้บริการช่างมืออาชีพที่มีความชำนาญและประสบการณ์ในการติดฟิล์มคอนโด
ช่างมืออาชีพจะมีทักษะและเทคนิคในการติดฟิล์มได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ฟิล์มมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น และป้องกันการเกิดปัญหาต่าง ๆ อย่างฟิล์มหลุดลอก ฟิล์มเกิดฟองอากาศ ฟิล์มเสียหาย เป็นต้น
นอกจากนี้ ช่างมืออาชีพยังมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ครบครันทันสมัย ช่วยให้การติดฟิล์มเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ การติดฟิล์มคอนโดเป็นกระบวนการที่ต้องการความรอบคอบและความเชี่ยวชาญ การเลือกใช้บริการช่างมืออาชีพจึงมีความสำคัญมากเพราะมีผลต่อคุณภาพของการติดตั้ง และนี่คือ 6 เหตุผลที่ควรเลือกใช้บริการช่างมืออาชีพในการติดฟิล์มคอนโด
1. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์
ช่างมืออาชีพมีความรู้และทักษะในการติดฟิล์ม อีกทั้งประสบการณ์การทำงานจริงที่สะสมมาอย่างยาวนานช่วยให้ช่างมืออาชีพมีความชำนาญในการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหน้างานด้วย
2. เครื่องมือและวัสดุ
ช่างมืออาชีพมีเครื่องมือและวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการติดฟิล์มอย่างมืออาชีพ การใช้วัสดุคุณภาพสูงและเครื่องมือที่ทันสมัยช่วยให้การติดฟิล์มมีความคงทนและดูดี
3. การปรึกษาและแนะนำ
ช่างมืออาชีพสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับประเภทและคุณสมบัติของฟิล์มที่เหมาะสมกับความต้องการ ไปจนถึงการแนะนำในการเลือกฟิล์มและวิธีการติดตั้งที่เหมาะสม
4. การรับรองคุณภาพ
ช่างมืออาชีพจะมีประวัติการทำงานที่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้ถือเป็นเครื่องการันตีการรับรองคุณภาพ ช่วยสร้างความมั่นใจในคุณภาพของการติดตั้งว่าจะช่วยให้ได้รับความพึงพอใจกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น
5. การรับประกัน
โดยส่วนใหญ่แล้วหากเลือกใช้บริการจากช่างมืออาชีพจะมีการรับประกันหลังการติดตั้งและบริการหลังการขาย
6. ประสิทธิภาพและการปรับแต่ง
ช่างมืออาชีพสามารถปรับแต่งการติดตั้งหน้างานให้ถูกต้องตามความต้องการและลักษณะของกระจกได้
ข้อดีของการใช้บริการช่างมืออาชีพติดฟิล์มคอนโด มีดังนี้
- ฟิล์มคอนโดจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
- ป้องกันการเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ฟิล์มหลุดลอก ฟิล์มเกิดฟองอากาศ ฟิล์มเสียหาย เป็นต้น
- การติดฟิล์มคอนโดเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
- ได้รับความพึงพอใจในประสิทธิภาพจากการใช้งานอย่างสูงสุด
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วหากต้องการติดฟิล์มคอนโดก็ควรพิจารณาเลือกใช้บริการช่างมืออาชีพจากบริษัทติดตั้งฟิล์มคอนโดที่มีประสบการณ์และมีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับบริการติดตั้งที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน แต่หากไม่มั่นใจว่าจะเลือกใช้บริการช่างมืออาชีพได้อย่างไร ลองขอคำแนะนำจากเพื่อนฝูงญาติพี่น้องที่เคยติดฟิล์มคอนโดมาก่อน หรือง่ายที่สุดก็คือสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับบริษัทที่รับติดตั้งฟิล์มคอนโดได้เลย สะดวกมาก ๆ
ติดฟิล์มกระจกบ้าน อาคาร คอนโด มีประโยชน์อย่างไร
สภาพอากาศและแสงแดดของเมืองไทย หากพูดถึงสไตล์การตกแต่งด้วยกระจกสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญก็คือการติดฟิล์มกระจกบ้านกันความร้อนนั่นเอง หลายคนอาจมีคำถามเมื่อติดผ้าม่านบังแดดแล้ว ทำไมยังมีการติดฟิล์มกระจกด้วย ในความเป็นจริงการการติดฟิล์มกระจกบ้าน อาคาร หรือการติดฟิล์มกระจกออฟฟิศ มีประโยชน์มากกว่าการป้องกันความร้อนจากแสงแดด ดังนี้
1. ลดความร้อนภายในบ้าน อาคาร หรือสำนักงาน
ฟิล์มติดกระจก เป็นฟิล์มกรองแสงมีคุณสมบัติช่วยลดความร้อนภายในบ้าน อาคาร หรือสำนักงาน ปัจจุบันได้รับความนิยมเพราะสามารถป้องกันรังสีอินฟราเรดได้ด้วย ซึ่งต่างจากผ้าม่านที่กันได้เฉพาะแสงสว่างส่องผ่าน แต่จะไม่กันรังสีความร้อนจากดวงอาทิตย์
จากคุณสมบัติป้องกันรังสีอินฟราเรดซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้รู้สึกร้อนเมื่อโดนผิวหนัง การติดฟิล์มให้กับกระจกบ้านหรืออาคารจะเป็นการป้องกันไม่ให้รังสีอินฟราเรดลอดผ่านเข้ามาในบ้าน ผลที่ได้คืออุณหภูมิภายในบ้านหรืออาคารลดลงจนรู้สึกได้ว่าบ้านเย็นขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่ยังไม่ได้ติดฟิล์ม เมื่อบ้านไม่ร้อน ผู้อยู่อาศัยก็จะรู้สึกเย็นสบายและมีความสุขมากขึ้น
นี่จึงเป็นข้อดีมาก ๆ เพราะด้วยความที่ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนชื้นตลอดทั้งปี ส่งผลให้บ้านและอาคารสำนักงานต้องเผชิญกับความร้อนจากแสงแดดโดยตรง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยและทรัพย์สินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความร้อนจากแสงแดดที่ทำให้ภายในบ้านหรืออาคารร้อนจนอึดอัด ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกไม่สบายตัว เหงื่อออกง่าย และอาจเกิดโรคต่าง ๆ อย่างลมแดด หรือความดันโลหิตสูง ไปจนถึงความร้อนจากแสงแดดที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเสื่อมสภาพเร็วขึ้น อีกทั้งยังมีเรื่องของความร้อนจากแสงแดดที่อาจทำให้กระจกแตกกระจายได้อีกด้วย
2. ลดแสง และความจ้าของแสงที่ส่องเข้ามาในอาคาร
นอกจากคุณสมบัติป้องกันรังสีอินฟราเรดแล้ว ฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคารยังสามารถลดความจ้าของแสงที่ส่องเข้ามาในอาคารจากคุณสมบัติของเนื้อฟิล์มที่สามารถกรองแสงแดดได้
ฟิล์มติดกระจกบ้าน อาคาร ช่วยกรองแสงลดแสงจ้า ลดอาการแสบตา ตาพร่ามัว เมื่อมองออกไปยังทิวทัศน์ภายนอกนาน ๆ เพราะแสงสว่างที่มากเกินไป จะทำให้ปวดตา มึนศีรษะ กล้ามเนื้อหนังตากระตุก วิงเวียน นอนไม่หลับ และการมองเห็นแย่ลง
ปริมาณแสงแดดที่มากเกินไปนอกจากจะทำให้รู้สึกไม่สบายตาแล้วยังส่งผลต่อสุขภาพตาในระยะยาวด้วย การติดตั้งฟิล์มให้กับกระจกบ้านและอาคารจึงมีความจำเป็นสำหรับบ้านที่มีคนอยู่อาศัยตลอดเวลา รวมถึงออฟฟิศบนอาคารสูงที่ต้องเจอกับแสงแดดทุกวัน นอกจากนี้ ฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคารยังสามารถเลือกได้ความเข้มได้หลายระดับ ยิ่งเข้มก็ยิ่งลดแสงได้มากขึ้นนั่นเอง
3. ปกป้องผิวของผู้อยู่อาศัยจากรังสียูวี
รังสียูวีเป็นภัยร้ายต่อผิวหนังมากกว่าที่หลายคนคิด เป็นต้นเหตุของโรคผิวหนังหลายชนิด อาทิ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวไหม้แดด ใบหน้าหมองคล้ำ ผิวหนังเหี่ยวย่น ก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ร้ายแรงที่สุดคือกระตุ้นให้เกิดมะเร็งผิวหนัง และแม้ว่าจะไม่โดนแสงแดดโดยตรงแต่ผิวหนังก็มีโอกาสได้รับรังสียูวีเช่นกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้ ฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคารจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ฟิล์มติดกระจกอาคาร สามารถลดความร้อนจากแสงแดดไม่ให้ผ่านเข้ามาภายในตัวอาคาร และป้องกันรังสียูวี ที่จะเป็นอันตรายต่อผิว สร้างบรรยากาศเย็นสบายและป้องกันผิวหมองคล้ำและการเกิดฝ้าริ้วรอย สร้างความสุขให้กับผู้อยู่อาศัย ห่างไกลจากรังสียูวีตัวร้ายอย่างถาวร
ซึ่งรังสียูวีนั้นเป็นรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นสั้นกว่าแสงแดดปกติ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ UV-A คิดเป็นประมาณ 95% ของรังสียูวีทั้งหมด และ UV-B คิดเป็นประมาณ 4% ของรังสียูวีทั้งหมด ซึ่งทั้ง UV-A และ UV-B ส่งผลต่อผิวพรรณโดยตรง เช่น ทำให้ผิวไหม้ เกิดริ้วรอย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง ส่วนอีกประมาณ 1% ที่เหลือ คือ UV-C เป็นรังสีที่มีอันตรายมากที่สุด แต่ถูกกรองโดยชั้นบรรยากาศของโลกไปแล้วรังสีนี้จึงไม่น่ากังวล ดังนั้นอีก 2 รังสีที่เหลือจึงควรใช้การติดฟิล์มกระจกบ้าน อาคาร ช่วยปกป้องผิวของผู้อยู่อาศัยจากรังสียูวี โดยเฉพาะฟิล์มกรองแสงทุกชนิดสามารถกันรังสียูวีได้ ยิ่งเป็นฟิล์มกรองแสงที่มีค่า UVR (Ultra Violet Rejection) สูง ยิ่งมีประสิทธิภาพในการกันรังสียูวีได้ดีกว่า ซึ่งค่า UVR เป็นค่าที่แสดงเปอร์เซ็นต์การกันรังสียูวีของฟิล์มกรองแสง UVR ที่สูงบ่งชี้ว่าฟิล์มกรองแสงสามารถกันรังสียูวีได้ดีมาก อย่างเช่นฟิล์มกรองแสงที่มีค่า UVR 99% ขึ้นไป จะสามารถป้องกันรังสียูวีได้เกือบทั้งหมด จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาผิวพรรณต่าง ๆ ไม่ว่าจะผิวไหม้ ฝ้า กระ และโรคมะเร็งผิวหนังได้
นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านจากรังสียูวีได้อีกด้วย เนื่องจากรังสียูวีสามารถทำให้เฟอร์นิเจอร์ซีดจางลงได้ จึงช่วยให้ดูใหม่อยู่เสมอ
4. สร้างความเป็นส่วนตัว
แน่นอนว่าบ้านหรืออาคารที่มีโครงสร้างเป็นกระจกนั้นดูสวยงามทันสมัยกว่าผนังคอนกรีตทั่วไปแต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัวที่ลดลงจากความใสของกระจกที่คนภายนอกสามารถมองทะลุเข้าไปเห็นภายในบ้านหรืออาคารได้
ฟิล์มติดกระจกอาคารมีหลายชนิด เช่น การติดฟิล์มปรอทหรือติดฟิล์มดำ ทำให้คนจากภายนอกไม่สามารถมองเข้าไปข้างในได้ แต่คนข้างในยังสามารถมองออกมาข้างนอกได้ สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย เพิ่มความปลอดภัยให้แก่ทรัพย์สินในบ้าน
ฟิล์มติดกระจกเหล่านี้ได้รับการออกแบบพิเศษด้วยการเพิ่มชั้นฟิล์มที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงเข้ามา เมื่อแสงแดดตกกระทบก็จะสะท้อนกลับออกไป ทำให้เมื่อมองจากภายนอกจะมีลักษณะคล้ายกับกระจกเงา ไม่สามารถมองทะลุเข้าไปข้างในได้ กลับกัน คนที่อยู่ภายในอาคารจะมองออกมาข้างนอกได้เป็นปกติ ยังคงรู้สึกโปร่งโล่ง มองเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้เหมือนกระจกใสปกติ ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจของคนรักความเป็นส่วนตัว
โดยฟิล์มปรอทเป็นฟิล์มกรองแสงที่มีส่วนผสมของโลหะ เช่น อลูมิเนียม เงิน หรือทองแดง มีคุณสมบัติในการสะท้อนแสงได้ดี ทำให้มองจากภายนอกเข้าไปข้างในได้ยาก ส่วนฟิล์มดำเป็นฟิล์มกรองแสงที่มีสีดำเข้ม มีคุณสมบัติในการดูดซับแสงได้ดี ทำให้มองจากภายนอกเข้าไปข้างในได้ยากเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีฟิล์มวันเวย์ ฟิล์มกรองแสงที่สามารถมองเห็นจากภายในออกไปภายนอกได้ แต่มองจากข้างนอกเข้ามาข้างในไม่ได้ ซึ่งฟิล์มประเภทนี้มักใช้ติดกระจกบริเวณห้องน้ำหรือห้องแต่งตัวโดยเฉพาะ
5. ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดค่าไฟฟ้า
เชื่อหรือไม่ว่าแค่ติดฟิล์มกระจกบ้านและอาคารก็สามารถลดค่าไฟได้ เมื่อติดฟิล์มกระจกบ้านและอาคาร เป็นการป้องกันไม่ให้ความร้อนผ่านเข้าไปภายใน ช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง ส่งผลทำให้ระบบปรับอากาศกินไฟน้อย สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าที่เกิดจากระบบปรับอากาศได้ 10-15 % และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย
ทั้งหมดเป็นผลมาจากคุณสมบัติป้องกันรังสีความร้อนอินฟราเรดและรังสียูวีของฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคารที่ช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดภายนอก ทำให้อุณหภูมิภายในบ้านและอาคารเย็นลง เมื่ออุณหภูมิในบ้านไม่สูงเกินไป เครื่องปรับอากาศก็จะ ทำงานน้อยลง ส่งผลให้กินไฟน้อยลง ค่าไฟก็ถูกลงตามลำดับ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการลดการสึกหรอของเครื่องปรับอากาศอีกทางหนึ่งด้วย เรียกว่าการติดฟิล์มให้กับกระจกบ้านและอาคารเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้อย่างยั่งยืน
6. สร้างความโดดเด่นให้กับบ้านและอาคาร
นอกจากจะช่วยลดค่าไฟได้แล้ว ฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคารยังสร้างจุดเด่นให้บ้านหลังนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดีเพียงเลือกโทนสีของฟิล์มให้สอดคล้องกับสีของตัวบ้านหรืออาคาร และเลือกความเข้มของฟิล์มให้เหมาะสมกับห้องหรือการอยู่อาศัย
บ้านและอาคารที่ติดฟิล์มกระจกฟิล์มกรองแสง จะดูหรูหรา มีความสวยงามโดดเด่นทันสมัย มีหลายชนิดให้เลือก รวมทั้งระดับความเข้มของฟิล์ม เพียงเลือกให้สมนอกจากสร้างความโดดเด่นให้กับบ้านและอาคารแล้ว ความเข้มของฟิล์มยังตอบโจทย์การใช้งานที่ดีอีกด้วย เช่น
- ความเข้ม 40 % เหมาะกับโซนพักผ่อนและห้องนั่งเล่น ระดับความเข้มนี้จะยอมให้แสงส่องผ่านใกล้เคียงกับกระจกที่ไม่ได้ติดฟิล์ม ให้ปริมาณแสงสว่างที่เป็นธรรมชาติ ให้บรรยากาศโปร่งโล่ง สบายตา สามารถอยู่อาศัยตอนกลางวันได้โดยไม่ต้องเปิดไฟ
- ความเข้ม 60 % เหมาะกับห้องครัว ระดับความเข้มนี้จะยอมให้แสงส่องผ่านได้น้อยลง มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นแต่ก็ไม่ทำให้มืดทึบจนรู้สึกอึดอัดเกินไป
- ความเข้ม 80 % เหมาะกับห้องนอน ระดับความเข้มนี้จะยอมให้แสงส่องผ่านได้น้อยแลกกับความเป็นส่วนที่มากขึ้น หากติดตั้งบริเวณห้องนอนจะช่วยกรองแสงสว่างได้มากในตอนกลางวันและจะมืดสนิทในตอนกลางคืน ช่วยให้หลับสนิทและป้องกันสิ่งรบกวนได้ดียิ่งขึ้น
อีกทั้งยังมีหลายสีสันและลวดลายให้เลือกสรร สามารถเลือกฟิล์มกรองแสงแบบที่เป็นสีหรือมีลวดลายที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านและอาคารได้ ก็จะช่วยให้บ้านและอาคารดูสวยงามและโดดเด่นขึ้น ยิ่งถ้าเลือกแบบที่ไม่เหมือนใครก็จะสามารถช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้บ้านและอาคารดูโดดเด่น มีความแตกต่างจากบ้านและอาคารอื่น ๆ ไปเลย ถือเป็นการสะท้อนสไตล์และความเป็นตัวตนของผู้อยู่อาศัย
7. ป้องกันรอยขีดข่วน
กระจกบ้านและอาคารก็เหมือนกับกระจกโทรศัพท์ที่มีโอกาสเกิดรอยขีดข่วนได้เมื่อใช้งานไปนาน ๆ การติดฟิล์มกระจกบ้าน อาคาร ช่วยป้องกันไม่ให้กระจกเกิดรอยขีดข่วนได้ เพราะโดยปกติฟิล์มกรองแสงอาคารทุกประเภท จะมีการเคลือบสารกันรอยขีดข่วน ทำให้มีคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วนที่จะเกิดกับกระจกได้
แต่ถึงอย่างนั้นก็ควรหลีกเลี่ยงการทำความสะอาดฟิล์มกรองแสงด้วยวัสดุที่แข็งหรือมีคม อย่างแปรงที่มีขนแข็ง ๆ หรือผ้าเนื้อหยาบ ๆ เพราะอาจทำให้ฟิล์มกรองแสงเกิดรอยขีดข่วนได้ ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดด้วยผ้านุ่มชุบน้ำหมาด ๆ หรือน้ำยาทำความสะอาดฟิล์มกรองแสงโดยเฉพาะ จะช่วยให้ฟิล์มกรองแสงสะอาดและหลีกเลี่ยงรอยขีดข่วนได้
แต่นอกจากนี้ หากบนเนื้อฟิล์มมีรอยขีดข่วนสะสมเป็นจำนวนมากแล้วก็สามารถลอกเปลี่ยนแผ่นใหม่ได้ทันทีโดยไม่ส่งผลเสียต่อเนื้อกระจก ทั้งยังเป็นการรักษาความใสของเนื้อกระจกไปพร้อมกับยืดอายุการใช้งานของกระจกบานนั้น ๆ ให้ยาวนานมากขึ้น ไม่ต้องลงทุนซ่อมหรือเปลี่ยนกระจกบานใหม่บ่อย ๆ
8. ลดการเกิดอุบัติเหตุและความเสี่ยงจากกระจกแตก
อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้และคงไม่มีใครอยากให้เกิดกับบ้านหรืออาคารของตัวเองอย่างแน่นอน ประกอบกับกระจกยังเป็นวัสดุเปราะบางที่มีโอกาสแตกหักได้ง่าย และเมื่อแตกแล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นมักจะมากกว่าวัสดุชนิดอื่น ดังนั้นการป้องกันกระจกตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการติดฟิล์มจึงเป็นสิ่งจำเป็น
การติดฟิล์มกระจกบ้าน อาคาร ลดและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากเศษกระจกแตกได้ เพราะในเนื้อฟิล์มจะมีส่วนที่เป็นกาว ซึ่งจะช่วยยึดเกาะกระจกไว้ในกรณีกระจกแตกจากอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อาศัย
นอกจากนี้ เนื้อฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคารยังมีคุณสมบัติยืดหยุ่นและเหนียวพอที่จะช่วยห่อหุ้มเศษชิ้นส่วนกระจกไม่ให้กระจัดกระจายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุจนกระจกแตก ช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย ทั้งยังช่วยลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินด้วยเช่นกัน
9. ช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง
รู้หรือไม่ว่ารังสียูวีไม่ได้เป็นภัยร้ายต่อผิวหนังของมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นศัตรูกับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในบ้านด้วย สังเกตง่าย ๆ จากวัสดุจำพวกพลาสติกที่เมื่อโดนแสงแดดไปนาน ๆ สีจะเริ่มซีด กรอบ และแตกในที่สุด นี่คือผลของการโดดแสงแดดและรังสียูวีแผดเผาเป็นเวลานาน คงไม่ดีแน่ถ้าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในบ้านที่บางชิ้นอาจมีมูลค่าสูงจะโดนรังสียูวีทำร้าย ปัญหานี้สามารถป้องกันได้ด้วยฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคาร
ฟิล์มติดกระจกบ้าน อาคาร นอกจากช่วยกรองแสงที่ส่องเข้ามาภายในอาคารแล้ว ยังปกป้องเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งจากรังสียูวี ช่วยชะลอการซีดจางและเสื่อมสภาพของเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งภายใน แม้ว่านี่จะเป็นประโยชน์ทางอ้อมที่ได้จากการติดฟิล์มแต่ก็ถือว่ามีความสำคัญกับคนรักเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งบ้านไม่น้อย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านดูใหม่และสวยงามอยู่เสมอ
แม้ว่าการติดฟิล์มกรองแสงจะสามารถช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในบ้านจากรังสียูวีได้ก็จริง เพราะฟิล์มกรองแสงทุกชนิดสามารถกันรังสียูวีได้ แต่ฟิล์มกรองแสงที่มีค่า UVR (Ultra Violet Rejection) สูง จะมีประสิทธิภาพในการกันรังสียูวีได้ดีกว่า ยิ่งค่า UVR สูง ยิ่งบ่งชี้ว่าสามารถกันรังสียูวีได้ดีมาก อย่างฟิล์มกรองแสงที่มีค่า UVR 99% ขึ้นไป จะสามารถป้องกันรังสียูวีได้เกือบทั้งหมด
ทั้งหมดนี้คือประโยชน์ 9 อย่างจากฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคารที่ SB Sticker นำมาฝากกัน เห็นได้ชัดว่าประโยชน์ทั้งหมดครอบคลุมตั้งแต่เรื่องของความสวยงาม การป้องกันความร้อนและรังสียูวี เพิ่มความเป็นส่วนตัว ป้องกันอุบัติเหตุไม่คาดคิด ไปจนถึงประโยชน์ด้านสุขภาพของผู้อยู่อาศัย เรียกได้ว่าการติดฟิล์มให้กับกระจกเป็นเหมือนการสร้างเกราะกำบังให้กับบ้านและอาคารอีกชั้นหนึ่งก็ว่าได้ และเมื่อเทียบกับการติดตั้งผ้าม่านแล้ว ฟิล์มติดกระจกมีคุณประโยชน์ที่ครอบคลุมกว่าอย่างชัดเจน เป็นวัสดุที่มีความสำคัญสำหรับบ้านและอาคารที่มีโครงสร้างเป็นกระจกอย่างแท้จริง
ใครที่ชื่นชอบแบบบ้านและสไตล์การตกแต่งที่เน้นความโปร่ง โล่ง หรูหรา ดูสมัยใหม่และทันสมัย การตกแต่งด้วยกระจกหรือมีกระจกเป็นส่วนประกอบ นอกจากตอบโจทย์ความต้องการแล้ว กระจกยังช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านที่มีพื้นที่จำกัด ไม่ดูคับแคบหรือรู้สึกอึดอัดอีกด้วย หากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกติดผ้าม่านป้องกันแสงแดด หรือติดฟิล์มกระจก ประโยชน์ของการติดฟิล์มกระจกบ้าน ในบทความนี้ คงช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นนะครับ