การติดตั้งฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้านและคอนโดมิเนียมถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนของประเทศไทยที่ไม่เพียงแต่ช่วยลดความร้อนภายในบ้าน ทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลงและประหยัดค่าไฟ แต่ยังช่วยป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่เป็นอันตรายต่อผิวและเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย
ปัจจุบันในตลาดมีฟิล์มกรองแสงให้เลือกหลากหลายประเภทและยี่ห้อ การเลือกฟิล์มที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณเป็นสำคัญ บทความนี้จะพาไปสำรวจคุณสมบัติและราคาของฟิล์มกรองแสงประเภทต่างๆ โดยอ้างอิงข้อมูลจากผู้ให้บริการติดตั้งที่มีประสบการณ์ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ
คุณสมบัติหลักที่ต้องพิจารณาในการเลือกฟิล์มกรองแสง
ก่อนจะเปรียบเทียบราคา สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจคุณสมบัติหลักของฟิล์มกรองแสง ซึ่งโดยทั่วไปจะระบุเป็นค่าเปอร์เซ็นต์ (%) ดังนี้
- การป้องกันรังสียูวี (UV Protection) : ฟิล์มที่ดีควรป้องกันรังสียูวีได้สูงใกล้เคียง 100% เพื่อปกป้องผิวและป้องกันไม่ให้สีของเฟอร์นิเจอร์ซีดจาง
- การลดพลังงานความร้อน (Heat Reduction) : เป็นค่าที่บ่งบอกประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนจากแสงแดด ยิ่งเปอร์เซ็นต์สูง บ้านก็จะยิ่งเย็นสบายขึ้น โดยทั่วไปแล้ว ฟิล์มกรองแสงสามารถช่วยลดอุณหภูมิในบ้านลงได้ประมาณ 2-6 องศาเซลเซียส
เปรียบเทียบฟิล์มกรองแสงประเภทต่างๆ
จากข้อมูลของผู้ให้บริการติดตั้งฟิล์มกรองแสง SB Sticker ซึ่งใช้ฟิล์มคุณภาพนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถแบ่งประเภทฟิล์มยอดนิยมพร้อมราคาติดตั้งโดยประมาณได้ดังนี้
1. ฟิล์มนาโนเซรามิก (Nano Ceramic Film)

เป็นฟิล์มคุณภาพสูงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะให้ทัศนวิสัยที่คมชัด ไม่ทึบหรือสะท้อนแสงมากเกินไป และมีประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนดีเยี่ยม
- Nano Ceramic 80 : ป้องกันรังสียูวี 80%, ลดความร้อน 80% ราคาประมาณ 15,000 บาท
- Nano Ceramic 70 : ป้องกันรังสียูวี 70%, ลดความร้อน 70% ราคาประมาณ 50,000 บาท
- Nano Ceramic 60 : ป้องกันรังสียูวี 60%, ลดความร้อน 60% ราคาประมาณ 15,000 บาท
- Nano Ceramic Premium 60 : เป็นรุ่นพรีเมียมที่ให้ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นปกติ แม้จะมีค่าการลดความร้อนเท่ากัน ราคาประมาณ 25,000 บาท
***ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถทักมาสอบถามก่อนได้ที่ทาง page
2. ฟิล์มคาร์บอน (Carbon Film)

เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ให้สีเข้มเป็นส่วนตัวและไม่สะท้อนแสง ที่สำคัญคือมีราคาที่เข้าถึงง่าย
- Carbon 80 : ป้องกันรังสียูวี 80%, ลดความร้อน 80% ราคาประมาณ 15,000 บาท
- Carbon 60 : ป้องกันรังสียูวี 60%, ลดความร้อน 60% ราคาประมาณ 15,000 บาท
***ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถทักมาสอบถามก่อนได้ที่ทาง page
3. ฟิล์มปรอท หรือฟิล์มเคลือบโลหะ (Sputtered/Metallic Film)

ฟิล์มประเภทนี้มีจุดเด่นที่การสะท้อนแสงสูง ทำให้ป้องกันความร้อนได้ดีเยี่ยม แต่ก็จะมีความเงาเป็นกระจกเมื่อมองจากภายนอก ให้ความเป็นส่วนตัวสูงในตอนกลางวัน
- Metal Sputtering 80 : ป้องกันรังสียูวี 80%, ลดความร้อน 80% ราคาประมาณ 25,000 บาท
- VR80SM : ป้องกันรังสียูวี 80%, ลดความร้อน 80% ราคาประมาณ 30,000 บาท
- VR70SI : ป้องกันรังสียูวี 70%, ลดความร้อน 70% ราคาประมาณ 15,000 บาท
***ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง สามารถทักมาสอบถามก่อนได้ที่ทาง page
สรุปและข้อแนะนำ
การเลือกฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณ หากต้องการฟิล์มประสิทธิภาพสูง ให้ทัศนวิสัยเคลียร์ใส “ฟิล์มนาโนเซรามิก” ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ หากต้องการฟิล์มที่เน้นความเป็นส่วนตัวและกันความร้อนได้ดีในราคาที่คุ้มค่า “ฟิล์มคาร์บอน” และ “ฟิล์มปรอท” บางรุ่นก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
นอกจากการเลือกประเภทฟิล์มแล้ว การเลือกผู้ให้บริการติดตั้งก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ควรเลือกบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยาวนาน ผู้ให้บริการอย่าง SB Sticker มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ใช้ฟิล์มนำเข้าคุณภาพ และมีการรับประกันหลังการติดตั้งนานสูงสุดถึง 7-10 ปี ซึ่งสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี
ก่อนตัดสินใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินหน้างานและขอคำแนะนำฟิล์มที่เหมาะสมกับทิศทางของแสงแดดและลักษณะการใช้งานของบ้านคุณโดยเฉพาะ เพื่อให้การลงทุนของคุณคุ้มค่าและได้ประโยชน์สูงสุด