Logo-1400x554-1.png

ลดความร้อนและรักษาความเย็นให้บ้านและอาคารด้วยฟิล์มกรองแสง

ลดความร้อนและรักษาความเย็นให้บ้านและอาคารด้วยฟิล์มกรองแสง

สารบัญเนื้อหา...

หน้าร้อนในบ้านเราทุกวันนี้อุณหภูมิเริ่มเพิ่มสูงขึ้นและมากขึ้นทุกวัน แต่ละบ้านต่างก็เริ่มคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อรักษาความเย็นให้บ้านและอาคารของเราในช่วงฤดูร้อนแบบนี้ ซึ่งหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพที่ทันสมัยก็คือการใช้ฟิล์มกรองแสงเพื่อลดความร้อนและรังสียูวีที่เข้ามาในบ้านและอาคาร ในบทความนี้จะทำให้คุณคิดไม่ถึงเลยละว่าการใช้ฟิล์มกรองแสงจะสามารถช่วยทำให้บ้านเย็นลงได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

ปัญหาความร้อนในบ้านและอาคาร

ในประเทศไทย อุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าวเป็นปัญหาใหญ่ที่หลายบ้านต้องเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ปัญหาความร้อนในบ้านและอาคารส่งผลกระทบต่อทั้งความสะดวกสบาย สุขภาพ และค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัย ซึ่งสาเหตุหลักของปัญหาความร้อนมาจากแสงแดด แสงแดดส่องลงบนหลังคา ผนัง และกระจก ทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในบ้าน นอกจากนี้วัสดุก่อสร้างบางชนิด โดยเฉพาะกระจกนี่ตัวดีเลย ทำหน้าที่ดูดซับความร้อนได้ดีมาก จึงส่งผลให้อุณหภูมิภายในบ้านสูงขึ้น รวมไปถึงการออกแบบที่ไม่คำนึงถึงทิศทางลม แสงแดด และการระบายอากาศ ก็ส่งผลต่ออุณหภูมิภายในบ้านเช่นเดียวกัน นี่ยังไม่นับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ปล่อยความร้อนออกมาทำให้อุณหภูมิภายในบ้านสูงขึ้นอีกด้วย

ผลกระทบของปัญหาความร้อน

ความร้อนอบอ้าวทำให้รู้สึกไม่สบายตัว นอนหลับยาก อ่อนเพลีย ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพราะความร้อนและความชื้นที่สูงจะทำให้วัสดุในบ้านเสื่อมสภาพเร็ว ดังนั้นแทบทุกหลังคาเรือนจึงแก้ปัญหาด้วยการใช้เครื่องปรับอากาศเพื่อคลายร้อน ก่อให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีกก็คือเป็นการเพิ่มค่าไฟฟ้า

ฟิล์มกรองแสงสามารถสะท้อนและกรองรังสีอินฟราเรดจากแสงอาทิตย์

ฟิล์มกรองแสงมีประสิทธิภาพในการสะท้อนและกรองรังสีอินฟราเรดจากแสงอาทิตย์ได้จริง โดยสามารถลดปริมาณความร้อนที่ส่งผ่านหน้าต่างเข้าสู่ภายในได้มากถึง 80% ส่งผลให้บ้านและอาคารเย็นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากฟิล์มกรองแสงประกอบไปด้วยชั้นโลหะหรือสารประกอบอนินทรีย์บาง ๆ ที่ทำหน้าที่สะท้อนและดูดซับรังสีอินฟราเรด ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของความร้อนจากแสงอาทิตย์ เมื่อมีฟิล์มกรองแสง ปริมาณความร้อนที่ผ่านเข้าสู่ภายในอาคารจะลดลง

ติดตั้งฟิล์มกรองแสงความร้อนลดลง ระบบปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนัก ประหยัดค่าไฟฟ้าได้มาก

เมื่อติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่มีประสิทธิภาพ ความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ผ่านเข้ามาในอาคารจะลดลง ส่งผลโดยตรงต่ออุณหภูมิภายในช่วยให้เย็นขึ้น ระบบปรับอากาศจึงไม่ต้องทำงานหนักเพื่อรักษาอุณหภูมิให้เย็นสบาย ส่งผลให้ประหยัดค่าไฟฟ้าอย่างเห็นได้ชัด โดยทั่วไปคาดว่าจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 8% ไปจนถึง 20% แต่หากติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่มีประสิทธิภาพสูง ร่วมกับปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานอื่น ๆ เช่น ปิดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ก็มีโอกาสประหยัดค่าไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 30%

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นประสิทธิภาพในการประหยัดค่าไฟฟ้าก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของฟิล์มกรองแสง สภาพอากาศ ทิศทางของอาคาร ขนาดและประเภทของหน้าต่าง ไปจนถึงพฤติกรรมการใช้พลังงาน ผู้ใช้จึงควรเลือกฟิล์มกรองแสงให้เหมาะสมกับความต้องการ งบประมาณ และควรปรับพฤติกรรมการใช้พลังงานควบคู่ไปด้วย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงจึงเป็นมาตรการหนึ่งในการรับมือกับสภาพอากาศร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการใช้พลังงาน สร้างสภาพแวดล้อมที่เย็นสบาย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผลดีที่ครอบคลุมทั้งมุมมองด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต นับว่าเป็นมาตรการที่ชาญฉลาดในการรับมือกับสภาพอากาศร้อน ซึ่งในปัจจุบันทวีความรุนแรงมากขึ้น

มุมมองด้านเศรษฐกิจ

  • ประหยัดค่าไฟฟ้า: ค่าไฟฟ้าเป็นค่าใช้จ่ายที่สำคัญของทุกครอบครัว ดังนั้นเมื่อความร้อนภายในบ้านลดลง ระบบปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนัก จึงช่วยลดค่าไฟฟ้าได้
  • ยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ: การทำงานหนักของเครื่องปรับอากาศส่งผลต่ออายุการใช้งาน การติดตั้งฟิล์มกรองแสงช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ จึงช่วยยืดอายุการใช้งาน ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนเครื่องใหม่
  • เพิ่มมูลค่าของอาคาร: อาคารที่มีระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพมีมูลค่ามากกว่า
  • ลดการใช้พลังงาน: ส่งผลดีต่อภาพรวมการใช้พลังงานของประเทศ

มุมมองด้านคุณภาพชีวิต

  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เย็นสบาย: เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย เพราะอุณหภูมิที่เย็นสบายส่งผลต่อความรู้สึก ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย กระปรี้กระเปร่า และยังส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น
  • ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพ: อุณหภูมิที่เย็นสบายส่งผลดีต่อสุขภาพ ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากความร้อน

ด้านสิ่งแวดล้อม

  • ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์: การใช้พลังงานที่ลดลง ส่งผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

สรุป

การเลือกใช้ฟิล์มกรองแสงถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับสภาพอากาศร้อนซึ่งกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ช่วยลดการใช้พลังงาน ช่วยให้ประหยัดค่าไฟฟ้า สร้างสภาพแวดล้อมที่เย็นสบาย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผลดีที่ครอบคลุมทั้งมุมมองด้านเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิต

อนึ่ง การที่ฟิล์มกรองแสงมีบทบาทสำคัญในการลดการใช้พลังงาน โดยเฉพาะการลดการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจทั้งในระดับครัวเรือนและภาพรวมของประเทศ อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อน จึงส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

เทคนิคการรักษาความเย็นให้บ้านและอาคารโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ

ก่อนจากขอฝากเทคนิคดี ๆ ทำได้ง่าย ๆ ในการรักษาความเย็นให้กับบ้านหรืออาคาร โดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ หรือถ้าไม่ไหวจำเป็นต้องใช้ก็ให้ประหยัดค่าไฟฟ้าให้ได้มากที่สุด นอกจากการติดตั้งฟิล์มกรองแสงแล้วก็อาจจะปลูกต้นไม้ใหญ่ หรือไม้เลื้อยบริเวณผนังด้านทิศตะวันตก จะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ส่องเข้ามายังตัวบ้านได้ หรืออาจจะติดตั้งพัดลมเพดานช่วยให้อากาศหมุนเวียนภายในบ้าน อย่างไรเสียพัดลมก็ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าเครื่องปรับอากาศแน่นอน อย่าลืมเปิดหน้าต่างในตอนเช้าและตอนเย็น เพื่อให้อากาศถ่ายเท ดึงลมเย็นเข้าบ้าน ปิดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้งาน จะช่วยลดการปล่อยความร้อนได้

เทคนิคเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการรักษาความเย็นให้กับบ้านและอาคารโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ ช่วยให้ประหยัดพลังงาน และลดค่าใช้จ่ายในบ้านได้เป็นอย่างดี หากมีคำถามหรือต้องการสอบถามข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการติดตั้งฟิล์มกรองแสงบ้านและอาคาร ติดต่อได้ที่ https://thaifilmsb.com/