Logo-1400x554-1.png

ปัญหาที่พบได้บ่อยของฟิล์มกรองแสงบ้าน แก้ไขได้ ง่ายนิดเดียว!

ปัญหาที่พบได้บ่อยของฟิล์มกรองแสงบ้าน แก้ไขได้ ง่ายนิดเดียว!

สารบัญเนื้อหา...

ฟิล์มกรองแสงเป็นไอเท็มสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม ป้องกันความร้อน และรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านหรืออาคาร แต่การใช้งานฟิล์มกรองแสงไปนาน ๆ ย่อมเกิดปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากตัวฟิล์มกรองแสงเองก็มีอายุการใช้งานที่จำกัด และสามารถเสื่อมสภาพได้ ในบทความนี้จึงรวบรวมปัญหาที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสง อันเนื่องมาจากการเสื่อมสภาพ พร้อมวิธีแก้ไขอย่างมืออาชีพ

สาเหตุที่ทำให้ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ

  1. แสงแดด: เหมือนเป็นตลกร้าย ทั้งที่ฟิล์มกรองแสงมีคุณสมบัติช่วยป้องกันแสงแดดแท้ ๆ แต่แสงแดดนี่ล่ะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะแสงแดดจัด เพราะเมื่อต้องกระทบกับแสงยูวีนานวันเข้า เจ้าตัวรังสียูวีก็จะค่อย ๆ ไปทำลายโครงสร้างโมเลกุลของฟิล์มกรองแสง ทำให้สีซีด เปลี่ยนเป็นสีอื่น หรือสูญเสียประสิทธิภาพในการกรองแสง
  1. ความร้อน: ก็เช่นเดียวกัน ความร้อนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะความร้อนที่สะสม เพราะเมื่อต้องปะทะกับความร้อนสูงเป็นระยะเวลานาน ก็จะทำให้กาวที่ยึดฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ เกิดฟองอากาศ หรือทำให้ฟิล์มลอกล่อน อีกทั้งความร้อนยังอาจทำให้ฟิล์มกรองแสงยืดหรือหดตัว ส่งผลต่อความเรียบตึง รูปลักษณ์ และประสิทธิภาพการใช้งานได้
  1. ความชื้น: กาวที่ใช้ยึดฟิล์มกับกระจกอาจเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เมื่อสัมผัสกับความชื้นเป็นเวลานาน ส่งผลให้ฟิล์มเกิดฟองอากาศ หลุดลอก หรือย่น นอกจากนี้บนพื้นผิวฟิล์มที่มีความชื้นสะสมเป็นเวลานานเชื้อราอาจเริ่มเติบโต ทำให้เกิดจุดด่างดำบนฟิล์ม ลอกล่อน เสียหาย ส่งผลต่อทัศนวิสัย และอาจส่งผลต่อสุขภาพได้ด้วย รวมไปถึงความชื้นในอากาศ โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนตกชุก หรืออากาศหนาวเย็น จะเร่งการเกิดสนิมบนชั้นโลหะบาง ๆ ของฟิล์มกรองแสงบางประเภท ซึ่งอาจจะส่งผลต่อความแข็งแรงและประสิทธิภาพของการกรองแสงได้เช่นกัน
  1. การทำความสะอาด: การทำความสะอาดฟิล์มกรองแสงที่ไม่ถูกวิธี อย่างการใช้สารเคมีที่รุนแรง จะทำให้ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดฟิล์มกรองแสงเป็นประจำโดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน และต้องเช็ดให้แห้งสนิท เนื่องจากในอากาศมีความชื้น เมื่อรวมกับฝุ่นละอองและมลภาวะจะเกาะตัวบนผิวฟิล์มกรองแสง เกิดเป็นคราบตะกอน สะสมหนาขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งจะส่งผลต่อความสวยงาม และอาจบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็น
  1. รอยขีดข่วน: แม้จะไม่ได้ทำให้ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพในแง่ของการใช้งาน แต่รอยขีดข่วนส่งผลต่อสภาพของฟิล์มกรองแสงโดยตรง ทำให้ฟิล์มดูเก่า ขาดความสวยงาม รอยขีดข่วนที่ลึกอาจส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็น นอกจากนี้รอยขีดข่วนบางประเภทอาจขยายใหญ่ขึ้น หรือลามเป็นรอยยาวเมื่อเวลาผ่านไป
  1. อายุการใช้งานของฟิล์มกรองแสง: อายุการใช้งานของฟิล์มกรองแสงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทของฟิล์ม คุณภาพของฟิล์ม สภาพอากาศ และการดูแลรักษา โดยทั่วไปฟิล์มกรองแสงมีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี

สัญญาณที่บ่งบอกว่าฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ

  • ฟิล์มมีรอยลอก รอยย่น หรือรอยแตก
  • ฟิล์มมีสีซีดจาง เปลี่ยนสี หรือมีสีไม่สม่ำเสมอ
  • ฟิล์มมีฟองอากาศ รอยเปื้อน หรือรอยด่าง
  • มองเห็นรอยขีดข่วนบนฟิล์ม
  • ฟิล์มไม่สามารถป้องกันความร้อนได้ดีเหมือนก่อน
  • มองเห็นแสงจ้าผ่านฟิล์ม
  • เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านหรืออาคารซีดจางเร็วกว่าปกติ

ฟิล์มลอก

ฟิล์มกรองแสงอาจลอกหลุดออกจากกระจกได้ สาเหตุหลัก ๆ คือ กาวเสื่อมสภาพ ฟิล์มเก่า หรือติดตั้งไม่ถูกต้อง กรณีลอกเป็นบางจุดอาจใช้กาวชนิดพิเศษสำหรับฟิล์มกรองแสงทาบริเวณที่ลอก แต่ถ้าเป็นเยอะหรือลอกเป็นวงกว้างแนะนำให้ลอกฟิล์มเก่าออกทั้งหมดแล้วติดตั้งฟิล์มใหม่

ฟิล์มมีฟองอากาศ

อาจเกิดจากการติดตั้งที่ไม่เรียบร้อย มีน้ำหรืออากาศค้างอยู่ระหว่างฟิล์มกับกระจก หากเป็นฟองอากาศขนาดเล็กสามารถไล่อากาศออกด้วยไม้บรรทัด บัตรแข็ง หรือใช้เข็มจิ้ม แต่ถ้าเป็นฟองอากาศขนาดใหญ่แนะนำให้ลอกฟิล์มแล้วติดตั้งใหม่ หรือเปลี่ยนฟิล์มใหม่ไปเลย

ผลเสียของฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ

  • ประสิทธิภาพการกันความร้อนลดลง
  • ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง
  • ความสวยงามของบ้านและอาคารลดลง
  • เสี่ยงต่ออันตรายจากฟิล์มที่ลอกหรือฉีกขาด

วิธีแก้ไขเมื่อฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ

การเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงใหม่คือวิธีที่ดีที่สุดเมื่อฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ และหากตัดสินใจที่จะเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงใหม่แล้วก็ควรเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดี เหมาะสมกับการใช้งาน และติดตั้งโดยช่างผู้ชำนาญ ก็จะช่วยป้องกันปัญหาฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควรได้ หลังจากติดตั้งแล้วก็ต้องดูแลรักษาฟิล์มกรองแสงอย่างถูกต้อง หมั่นทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดและผ้าไมโครไฟเบอร์ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่รุนแรง

อย่างไรก็ตาม การป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข การเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพ เลือกร้านติดตั้งที่มีประสบการณ์ และดูแลรักษาฟิล์มอย่างถูกต้อง จะช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิล์มและป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

วิธีป้องกันปัญหาฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพ

  1. เลือกฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดี เหมาะสมกับการใช้งาน
  2. ไม่ควรติดตั้งฟิล์มกรองแสงเอง ควรจ้างช่างมืออาชีพ เลือกร้านติดตั้งที่ได้มาตรฐาน มีใบรับประกัน มีประสบการณ์และความชำนาญ สามารถตรวจสอบผลงานที่ผ่านมาได้
  3. ดูแลรักษาฟิล์มกรองแสงอย่างถูกต้อง เช่น หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมขูดขีด ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่รุนแรง แต่ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

สรุป

ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งาน ความสวยงาม และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย การหมั่นสังเกตสัญญาณเตือนของฟิล์มเสื่อมสภาพ เลือกเปลี่ยนฟิล์มใหม่เมื่อจำเป็น และดูแลรักษาฟิล์มอย่างถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งานของฟิล์มกรองแสง ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว คงประสิทธิภาพในการใช้งาน ปกป้องบ้านหรืออาคารจากแสงแดด รักษาความเป็นส่วนตัวได้อย่างยาวนาน และยังช่วยให้บ้านหรืออาคารของคุณสวยงาม ปลอดภัย น่าอยู่ยิ่งขึ้นด้วย

หากมีคำถามเพิ่มเติม หรือต้องการปรึกษาปัญหาเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงบ้าน สามารถติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก SB STICKER ได้โดยตรงที่ https://thaifilmsb.com/