ห้องนอนเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นอาคารสูง นิยมนำกระจกแผ่นใหญ่ ๆ มาเป็นส่วนประกอบในการตกแต่งผนังห้อง เพื่อให้สามารถชมวิวทิวทัศน์ และทัศนียภาพจากมุมสูง โดยติดผ้าม่านหรือฟิล์มกันความร้อนบดบังแสงแดด แต่หลายคนอาจสงสัย ห้องนอนในคอนโด ควรติดฟิล์มกันความร้อนจากบริษัทรับติดฟิล์มกระจกคอนโดที่น่าเชื่อถือ หรือติดผ้าม่านแบบไหนดี บทความนี้มีคำแนะนำ ครับ
ห้องนอนในคอนโด ควรติดฟิล์มกันความร้อนหรือติดผ้าม่านดี?
สำหรับห้องนอนในคอนโด การติดผ้าม่านหรือติดฟิล์มกันความร้อน อาจมีประโยชน์หลัก ๆ เหมือนกัน คือช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อนที่เข้ามาในห้อง รวมทั้งให้ความเป็นส่วนตัวได้เช่นเดียวกันแต่ทั้งผ้าม่านและฟิล์มกรองแสงหากเปรียบเทียบจะมีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกัน ดังนี้
เปรียบเทียบการติดผ้าม่าน กับการติดฟิล์มกันความร้อน ห้องนอนในคอนโด
การติดผ้าม่าน | การติดฟิล์มกันความร้อน |
1.ช่วยป้องกันแสงและความร้อน ที่ส่องเข้ามาภายในห้อง ป้องกันแสงแดด และความร้อนที่ส่องเข้ามาภายในห้อง | มีคุณสมบัติการกรองรังสีความร้อน หรือรังสีอินฟราเรดได้ดี มีตั้งแต่ป้องกันได้ 50%-99% |
2. สามารถป้องกันรังสี UV/รังสี IR จากภายนอกได้ แต่ต้องผ้ากันแสง Blackout 90% – 100% | มีคุณสมบัติการกรองรังสีความร้อน หรือรังสีอินฟราเรดได้ดี มีตั้งแต่ป้องกันได้ 50%-99% |
3.ม่านกรองแสงบางชนิด สามารถป้องกันรังสี UV ได้เช่นกัน (หรือเรียกว่าม่านกัน UV) แต่เมื่อเปิดผ้าม่านช่วงกลางวันกลางวัน ก็ไม่สามารถชะลอความซีดจางของเฟอร์นิเจอร์ได้ | จากคุณสมบัติสามารถป้องกันรังสี UV ได้มากถึง 99% ทำให้สามารถรักษาเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้ซีดจาง ได้ตลอดเวลา 24 ชม. |
4.การติดผ้าม่านให้ความเป็นส่วนตัว แต่บดบังทัศนียภาพภายนอก | ให้ความเป็นส่วนตัว โดยไม่บดบังทัศนียภาพภายนอก |
5.เป็นที่สะสมของละอองฝุ่น ทำความสะอาด การดูแลรักษายุ่งยากมากกว่าฟิล์มกรองแสง | ทำความสะอาดง่ายๆ ไม่สะสมฝุ่น |
6.ให้ความเป็นส่วนตัวได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน | ไม่สามารถให้ความเป็นส่วนตัวในเวลากลางคืน |
7.ในตอนกลางคืน หากแสงจากด้านในสว่างกว่าแสงด้านนอก ไม่สามารถทำให้คนด้านนอกมองเห็นด้านในได้ | ในตอนกลางคืน หากแสงจากด้านในสว่างกว่าแสงด้านนอก จะทำให้คนด้านนอกมองเห็นด้านในได้ |
8.สามารถปรับให้แสงส่องเข้ามาภายในมากหรือน้อยได้ | ความเข้มของฟิล์มจะเหมือนเดิมตลอด ไม่สามารถเลือกปรับให้แสงสว่างเข้ามากน้อยเหมือนผ้าม่านได้ |
9.มีหลายรูปแบบ ช่วยเพิ่มความสวยงามภายในบ้าน | มีสีและความเข้มแตกต่างกัน เพิ่มความสวยงามภายในบ้านได้น้อยกว่าผ้าม่าน |
10.ราคาติดตั้งแพงกว่ามาก ถ้าเทียบพื้นที่ติดตั้งที่เท่ากัน | ราคาติดตั้งถูกกว่า ถ้าเทียบพื้นที่ติดตั้งที่เท่ากัน |
11.ผ้าม่านกันแสง ทำหน้าที่สะท้อนแสงแดดที่เข้ามาในอาคาร แต่ไม่สามารถแก้ไขเรื่องความร้อนในบ้านได้อย่างเต็มที่ | ฟิล์มติดกระจก ทำหน้าที่ลดความร้อนจากรังสียูวี ไม่ให้เข้ามาในตัวบ้าน ตัวอาคารได้ดีกว่าผ้าม่าน |
12.ผ้าม่านมีหลายชนิดที่มีคุณสมบัติป้องกันรังสียูวี แต่ไม่มีผ้าม่านที่ได้รับรองด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 | การติดฟิล์มกระจก รับรองด้วยผลวิจัยระบุว่าสามารถช่วยให้เครื่องปรับอากาศในบ้านใช้พลังงานในการทำความเย็นน้อยลง ทำให้ตัวฟิล์มได้รับการรับรองจากกระทรวงพลังงาน ด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 |
13.การติดผ้าม่านสามารถควบคุมแสงสว่างที่เข้ามาได้ด้วยการเปิดปิดผ้าม่าน เมื่อปิดม่านทำให้ห้องมืดหรือมีความเป็นส่วนตัว 100 % | การฟิล์มกันความร้อน ไม่สามารถป้องกันแสงสว่างได้ 100 % ทำให้บ้านหรืออาคารมีแสงสว่างเข้ามาภายในตลอดทั้งวัน ความสว่างขึ้นอยู่กับความเข้มของฟิล์ม |
14.หากบ้านหรืออาคาร มีฝุ่นละอองมาก แม้ม่านจะช่วยกรองฝุ่นไว้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่น | ไม่ดูดซับฝุ่น และไม่สะสมฝุ่นละออง |
จากการเปรียบเทียบคุณสมบัติของฟิล์มกันความร้อน VS ผ้าม่าน หากใครยังตัดสินใจไม่ถูกว่าควรเลือกติดฟิล์มกันความร้อนหรือติดผ้าม่านแบบไหนดี คุณลักษณะที่โดดเด่นของการติดฟิล์มกันความร้อน ก็คือป้องกันรังสี UV และความร้อนจากภายนอกเข้าสู่บ้าน ส่วนการติดผ้าม่านให้ความเป็นส่วนตัวของคนในบ้านได้ดี รวมทั้งผ้าม่านยังมีความสวยงาม เป็นเสมือนเฟอร์นิเจอร์ที่จะช่วยให้บ้านดูอบอุ่น นุ่มนวล และสบายตา การเลือกติดตั้งระหว่างฟิล์มกระจกบ้านกับผ้าม่าน อาจสำรวจความเหมาะสมของบ้านหรืออาคารเป็นส่วนประกอบ หรือต้องการติดทั้งผ้าม่านกับฟิล์มกรองแสงก็ทำได้เช่นกัน
ฟิล์มกรองแสงกับผ้าม่าน ติดอะไรดี? ติดฟิล์มแทนผ้าม่านได้ไหม?
ในปัจจุบัน ผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมนิยมติดฟิล์มกรองแสงหรือผ้าม่านเพื่อช่วยลดความร้อนจากแสงแดด และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับภายในห้อง แต่ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่อาจสงสัยว่าควรติดฟิล์มกรองแสงหรือติดผ้าม่านดี? หรือติดฟิล์มแทนผ้าม่านได้ไหม? ต้องบอกแบบนี้ว่าฟิล์มกรองแสงมีคุณสมบัติในการลดความร้อนจากแสงแดดได้สูงถึง 99% โดยสามารถสะท้อนความร้อนจากแสงแดดไม่ให้เข้าสู่ภายในห้อง ทำให้ห้องเย็นสบายขึ้น ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในการใช้เครื่องปรับอากาศได้ นอกจากนี้ฟิล์มกรองแสงยังช่วยป้องกันรังสี UV ไม่ให้ทำลายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้าน ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วอีกด้วย ส่วนผ้าม่านเขามีคุณสมบัติในการช่วยกรองแสงแดดและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับภายในห้อง สามารถเลือกผ้าม่านได้หลายรูปแบบตามความต้องการ เช่น ผ้าม่านแบบทึบแสง, ผ้าม่านแบบโปร่งแสง, หรือผ้าม่านแบบกรองแสง เป็นต้น แต่ผ้าม่านไม่สามารถป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้อย่างเต็มที่ จึงอาจทำให้ภายในบ้านร้อนขึ้นได้
ดังนั้น ทั้งฟิล์มกรองแสงและผ้าม่านต่างก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการตกแต่งหน้าต่างกระจกเพื่อความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย โดยฟิล์มกรองแสงหลัก ๆ จะช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดและรังสี UV ในขณะที่ผ้าม่านจะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้อง แต่หากต้องเลือกว่าจะติดฟิล์มกรองแสงหรือผ้าม่านดีนั้น ลองพิจารณาข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 นี้ดูก่อน
ข้อดี ข้อเสีย ของฟิล์มกรองแสง ฟิล์มติดอาคารมีอะไรบ้าง?
ฟิล์มกรองแสง หรือฟิล์มติดอาคาร เป็นวัสดุที่เคลือบติดกับกระจกหน้าต่างหรือประตูเพื่อลดความร้อนจากแสงแดด ป้องกันรังสี UV และเพิ่มความสวยงามให้กับอาคาร โดยฟิล์มกรองแสงมีให้เลือกหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่ต้องการ
ข้อดีของฟิล์มกรองแสง
- ช่วยลดความร้อนจากแสงแดด ฟิล์มกรองแสงจะสะท้อนรังสีอินฟราเรด (IR) ซึ่งเป็นรังสีความร้อนจากแสงแดด ทำให้ความร้อนเข้าสู่ภายในอาคารได้น้อยลง ช่วยให้ภายในอาคารเย็นสบายขึ้น ส่งผลให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลงและประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น
- ป้องกันรังสี UV ไม่ให้เข้ามาภายในอาคาร โดยฟิล์มกรองแสงจะดูดซับรังสี UV ซึ่งเป็นรังสีที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพและก่อให้เกิดความหมองคล้ำของเฟอร์นิเจอร์ ฟิล์มกรองแสงที่ดีจะสามารถป้องกันรังสี UV ได้สูงถึง 99% ช่วยลดความเสี่ยงของโรคผิวหนังและดวงตาได้
- เพิ่มความปลอดภัย ฟิล์มกรองแสงบางชนิดสามารถช่วยป้องกันอันตรายจากกระจกแตกได้ โดยเมื่อกระจกแตกตัวฟิล์มกรองแสงจะช่วยยึดเศษกระจกไม่ให้กระจายออก
- เพิ่มความสวยงามให้กับอาคาร ฟิล์มกรองแสงมีให้เลือกหลากหลายสีสันและลวดลาย ช่วยให้อาคารดูสวยงามและโดดเด่น
ข้อเสียของฟิล์มกรองแสง
- ฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มสูงอาจบดบังทัศนียภาพภายนอกได้
- ไม่สามารถปรับแสงสว่างได้ เพราะฟิล์มกรองแสงจะกรองแสงแดดให้ส่องผ่านเข้ามาในอาคารได้ในระดับที่เท่ากันตลอดเวลา จึงไม่สามารถปรับแสงสว่างได้ตามต้องการ
- ราคาติดตั้งอาจแพงกว่าฟิล์มธรรมดา

การเลือกฟิล์มกรองแสงควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- ทิศทางของแสงแดด หากอาคารหันหน้าไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่แสงแดดส่องแรง ควรเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มสูงเพื่อช่วยป้องกันความร้อนได้มากขึ้น
- งบประมาณ ราคาติดตั้งฟิล์มกรองแสงอาจแตกต่างกันไปตามประเภทและคุณสมบัติของฟิล์ม
การติดตั้งฟิล์มกรองแสง ควรเลือกบริษัทติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่มีความน่าเชื่อถือ มีช่างติดตั้งที่มีประสบการณ์ และเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ เพื่อให้ได้ฟิล์มกรองแสงที่มีประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานยาวนาน
ข้อดี ข้อเสีย ของผ้าม่านมีอะไรบ้าง?
ผ้าม่านเป็นวัสดุที่ใช้ตกแต่งหน้าต่าง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวและความสวยงามให้กับห้อง ผ้าม่านมีให้เลือกหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุ รูปแบบ และสีสัน ดังนี้
ประเภทของผ้าม่าน
- ผ้าม่านโปร่ง ช่วยให้แสงสว่างผ่านเข้ามาภายในได้ เหมาะกับห้องที่ต้องการความสว่าง
- ผ้าม่านทึบแสง ช่วยบังแสงสว่างจากภายนอก เหมาะกับห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
- ผ้าม่านกรองแสง ช่วยลดแสงสว่างจากภายนอก เหมาะกับห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัว แต่ยังคงต้องการความสว่าง
- ผ้าม่านกันแสง ช่วยลดแสงสว่างจากภายนอกได้มาก เหมาะกับห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและแสงสว่างน้อย
- ผ้าม่านกันฝุ่น มีคุณสมบัติในการป้องกันการเกาะติดของฝุ่นละออง โดยจะมีสารเคลือบพิเศษบนเนื้อผ้า ซึ่งสารเคลือบนี้จะช่วยดักจับฝุ่นละอองไม่ให้เกาะติดกับเนื้อผ้า ช่วยให้ผ้าม่านสะอาดอยู่เสมอ และไม่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละออง เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้
ข้อดีของผ้าม่าน
- เพิ่มความเป็นส่วนตัว ผ้าม่านช่วยให้คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นภายในห้องได้ ช่วยให้รู้สึกปลอดภัยและสบายใจ
- เพิ่มความสวยงาม ผ้าม่านมีให้เลือกหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัสดุ รูปแบบ และสีสัน ช่วยให้ห้องดูสวยงามและน่าอยู่มากขึ้น
- ปรับความสว่างของห้องได้ตามต้องการ ผ้าม่านสามารถเปิด-ปิดได้ตามต้องการ จึงช่วยให้ควบคุมแสงสว่างภายในห้องได้ตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย
- ผ้าม่านบางประเภทสามารถช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้ ช่วยให้ห้องเย็นสบายขึ้น
ข้อเสียของผ้าม่าน
- ผ้าม่านอาจสะสมฝุ่นและเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค หากไม่ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
- ผ้าม่านอาจบดบังทัศนียภาพภายนอกหากปิดม่าน
- ราคาอาจสูง ผ้าม่านมีราคาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัสดุและรูปแบบ
การเลือกผ้าม่านควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- ความต้องการและการใช้งาน ต้องการผ้าม่านแบบไหน เน้นความเป็นส่วนตัว ความสวยงาม หรือต้องการป้องกันความร้อนจากแสงแดด
- ตำแหน่งของห้อง ห้องอยู่ทิศทางไหน แสงแดดเข้ามากน้อยแค่ไหน
- งบประมาณ เพราะผ้าม่านมีราคาที่แตกต่างกันไป

ถ้าต้องการติดม่านหรือฟิล์มกันความร้อนเพียงอย่างเดียว เพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุดเลือกอะไรดี?
การเลือกติดม่านหรือฟิล์มกันความร้อนเพียงอย่างเดียว เพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุด ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของแต่ละบุคคล หากต้องการเน้นการป้องกันแสงแดด และความร้อนจากแสงแดดเป็นหลัก ควรเลือกติดฟิล์มกรองแสง โดยฟิล์มกรองแสงมีราคาติดตั้งที่ถูกกว่าผ้าม่าน ทั้งยังช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อนได้ดีกว่าผ้าม่าน โดยสามารถลดอุณหภูมิภายในห้องได้ประมาณ 5-10 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ฟิล์มกรองแสงยังช่วยป้องกันรังสี UV ได้ 99% ป้องกันเฟอร์นิเจอร์ไม่ให้ซีดจาง และทำความสะอาดง่าย ไม่สะสมฝุ่น จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาได้ในระยะยาว
แต่อย่างไรก็ตาม ฟิล์มกรองแสงอาจบดบังทัศนียภาพภายนอกบางส่วน และไม่สามารถปรับแสงให้เข้ามาภายในได้มากหรือน้อยได้ รวมถึงว่าหากต้องการความเป็นส่วนตัวด้วยก็อาจต้องพิจารณาติดม่านกันแสงเพิ่มเติม
มาที่ผ้าม่านกันบ้าง สำหรับผ้าม่านนั้นมีราคาติดตั้งที่แพงกว่าฟิล์มกรองแสง แต่มีความสวยงาม และสามารถปรับแสงให้เข้ามาภายในได้มากหรือน้อยได้ตามต้องการ โดยผ้าม่านกันแสงจะช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อนได้ดี แต่ไม่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ดีเท่าฟิล์มกรองแสง
ดังนั้น หากต้องการติดม่านหรือฟิล์มกันความร้อนเพียงอย่างเดียว เพื่อให้คุ้มค่ามากที่สุด ก็ควรพิจารณาจากความต้องการและงบประมาณ โดยหากต้องการเน้นการป้องกันแสงแดดและความร้อนจากแสงแดดเป็นหลัก ควรเลือกติดฟิล์มกรองแสง แต่ถ้าต้องการความสวยงามและความเป็นส่วนตัว สามารถเลือกติดผ้าม่านกันแสงได้
ตัวอย่างการเปรียบเทียบราคาติดตั้งฟิล์มกรองแสงและผ้าม่าน
- ฟิล์มกรองแสงติดกระจกบานใหญ่สำหรับคอนโดขนาดไม่เกิน 26.5 ตารางเมตร ราคาประมาณ 3,900 บาท
- ผ้าม่านติดกระจกบานใหญ่สำหรับคอนโดขนาดไม่เกิน 26.5 ตารางเมตร ราคาประมาณ 6,900 บาท
ทั้งนี้ เป็นเพียงราคาโดยประมาณ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคุณภาพของฟิล์มกรองแสงหรือผ้าม่าน และผู้ให้บริการติดตั้ง
ติดฟิล์มกรองแสงแทนผ้าม่านได้ไหม?
การติดฟิล์มกรองแสงแทนผ้าม่านสามารถทำได้ แต่อาจไม่ได้เหมาะไปเสียทุกกรณี เนื่องจากฟิล์มกรองแสงไม่สามารถป้องกันแสงสว่างได้ 100% ทำให้ภายในห้องอาจสว่างมากเกินไป โดยเฉพาะห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ ซึ่งได้รับแสงแดดจัดจ้าตลอดทั้งวัน ดังนั้นควรพิจารณาเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มที่เหมาะสมกับความต้องการ โดยสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจติดตั้ง
สรุป ติดฟิล์มหรือม่านดี?
ห้องนอนเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่ควรได้รับความสะดวกสบายและปลอดภัย การจัดแสงและความเป็นส่วนตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นจึงมีคำถามว่าห้องนอนในคอนโดควรติดฟิล์มกันความร้อนหรือติดผ้าม่านดี? ซึ่งการที่จะสรุปว่าติดฟิล์มหรือม่านดีนั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละบุคคล ดังนี้
- หากต้องการป้องกันแสงแดดและความร้อน ฟิล์มกันความร้อนจะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้ดีกว่าผ้าม่าน
- หากต้องการป้องกันรังสียูวี ฟิล์มกันความร้อนจะป้องกันรังสี UV ได้ดีกว่าผ้าม่านทั่วไป
- หากต้องการประหยัดค่าไฟฟ้า ฟิล์มกันความร้อนที่ได้การรับรองจากกระทรวงพลังงานด้วยฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าของเครื่องปรับอากาศได้
- หากต้องการความเป็นส่วนตัว ผ้าม่านจะให้ความเป็นส่วนตัวได้ดีกว่าฟิล์มกันความร้อน
- หากต้องการความสวยงาม ผ้าม่านมีหลายรูปแบบให้เลือก ช่วยเพิ่มความสวยงามภายในบ้าน ช่วยให้บ้านดูอบอุ่น นุ่มนวล และสบายตา
- แต่หากต้องการทั้งหมด สามารถติดทั้งฟิล์มกันความร้อนและผ้าม่านร่วมกันได้ โดยเลือกฟิล์มกันความร้อนที่มีความเข้มที่เหมาะสม เพื่อให้แสงสว่างผ่านเข้ามาภายในได้เพียงพอ พร้อมทั้งติดผ้าม่านไว้อีกชั้น เพื่อเพิ่มความสวยงามและความเป็นส่วนตัว
การติดฟิล์มกันความร้อนมีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันรังสี UV และความร้อนจากภายนอกได้ดี ทำให้สามารถรักษาความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้ด้วย แต่ก็จะสูญเสียในเรื่องของความเป็นส่วนตัวเวลากลางคืน และไม่สามารถปรับการเปิด-ปิดรับแสงได้ ดังนั้นฟิล์มกันความร้อนจึงเหมาะกับห้องที่ต้องการความเย็นสบายและลดความร้อนจากแสงแดดเป็นหลัก
การติดผ้าม่านทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า และสามารถป้องกันแสงได้ดีในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังเสริมความสวยงามภายในบ้านได้อย่างมีสไตล์ แต่ก็อาจสะสมฝุ่นและทำให้การทำความสะอาดยุ่งยากขึ้น ดังนั้นผ้าม่านจึงเหมาะกับห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความสวยงามเป็นหลัก
โดยสรุปแล้ว การเลือกติดฟิล์มหรือม่านขึ้นอยู่กับความต้องการคุณภาพชีวิต ปัจจัยต่าง ๆ งบประมาณ และความคุ้มค่าในการใช้งานแต่ละอย่างของแต่ละคน การประเมินคุณค่าที่สำคัญและความต้องการเฉพาะของคุณเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการตัดสินใจนี้ แต่หากยังไม่แน่ใจว่าควรจะติดฟิล์มหรือม่านดี สามารถปรึกษาหาข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญหรือช่างติดตั้งของทั้งฟิล์มกันความร้อนและผ้าม่าน เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจจะดีที่สุด