ฟิล์มกรองแสงบ้านในปัจจุบันมักนิยมใช้สำหรับการนำไปตกแต่งบ้าน คอนโดต่างๆ เนื่องมาจากทำให้ตัวกระจกดูมีมิติและสวยงามมากขึ้นแล้ว ยังรวมไปถึงการที่ตัวฟิล์มมีประโยชน์ในด้านต่างๆ เช่น การเพิ่มความส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัย การสะท้อนแสงแดดทำให้บ้านร่มรื่นยิ่งขึ้น
เพราะฉะนั้นสำหรับผู้ที่สนใจจะติดฟิล์มกรองแสงให้กับบ้านขอแนะนำวิธีการเลือกฟิล์มให้เหมาะสมและการใช้ โดยจะมีวิธีเลือกดังต่อไปนี้
วิธีเลือกฟิล์มกระจกบ้านให้เหมาะกับสไตล์และการใช้งาน
1. จุดประสงค์
ขั้นตอนแรกในการเลือกฟิล์มกรองแสงให้มองไปที่จุดประสงค์หรือความต้องการของเราเสียก่อน ว่าต้องการประโยชน์อะไรจากฟิล์มที่ติดตั้ง โดยประโยชน์ของฟิล์มกรองแสงเบื้องต้นจะมีดังนี้
- กันความร้อน : เลือกฟิล์มชนิดปรอท หรือฟิล์มที่มีความเข้มสูง
- ต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัว : เลือกฟิล์มกรองแสงที่มีความสามารถสะท้อนแสงได้ ตามความต้องการ
- ต้องการตกแต่งบ้าน : เลือกฟิล์มสติ๊กเกอร์หรือฟิล์มกรองแสงสีต่างๆ เพื่อปรับใช้กับบ้านเราได้
- ประหยัดค่าไฟ : เลือกฟิล์มที่มีความเข้มสูง
***ทั้งนี้ความต้องการของคุณอาจมีหลากหลาย แนะนำให้ติดต่อสอบถามกับช่างติดตั้งโดยตรงเสียก่อน
เมื่อเรารู้แล้วว่าจุดประสงค์ในการติดตั้งฟิล์มเราคืออะไร ก็จะทำให้การเลือกฟิล์มให้เหมาะกับตัวบ้านง่ายยิ่งขึ้นแล้วครับ
2. สไตล์การตกแต่งบ้าน
การเลือกฟิล์มกรองแสงนอกจากคำนึงถึงประโยชน์ในการใช้สอยแล้ว ยังต้องดูสไตล์การตกแต่งบ้านเพื่อความสวยงามด้วย โดยผมขอแบ่งแยกฟิล์มที่เหมาะกับสไตล์บ้านออกเป็นสามแบบด้วยกัน ได้แก่
- สไตล์โมเดิร์น: เลือกฟิล์มโทนสีเทา เงิน หรือดำ
- สไตล์คลาสสิก: พิจารณาฟิล์มโทนสีอ่อน เช่น เบจ หรือน้ำตาลอ่อน
- สไตล์มินิมอล: เลือกฟิล์มใส หรือฟิล์มที่มีความโปร่งแสงสูง
3.ตำแหน่งในการติดตั้ง
ตำแหน่งที่ควรจะติดฟิล์มก็นับเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ เนื่องจากแสงแดดไม่ได้สาดมาส่องโดนกระจกทุกบานในบ้าน และตัวกระจกบ้านที่ต้องการติดฟิล์มในแต่ละจุดนั้นมีความแตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นแนะนำให้ปรึกษาช่างที่ทำการติดตั้งเสียก่อนว่าจุดไหนเหมาะกับฟิล์มชนิดไหนบ้าง
4.ความน่าเชื่อถือและคุณภาพของช่าง
การเลือกช่างติดฟิล์มกรองแสงนั้น ควรมาจากช่างที่มืออาชีพจริงๆ และไม่แนะนำให้ทำการติดตั้งเอง เนื่องจากจะเกิดปัญหาที่ตามมา เช่นตัดฟิล์มได้ไม่คมทำให้มีรูแสง พื้นในฟิล์มมีคราบฝุ่นสิ่งสกปรกต่างๆอยู่เป็นต้น
เพราะฉะนั้นหากสนใจติดตั้งฟิล์มกรองแสงบ้าน อาคาร ผมแนะนำให้ติดต่อมาที่ SB Sticker ที่เป็นช่างมืออาชีพ มีประสบการณ์ติดตั้งฟิล์มกรองแสงมานานกว่า 10 ปี รวมถึงมีประกันตัวฟิล์มยาวนานถึง 7 ปีครับ
5. งบประมาณ
แน่นอนครับการติดตั้งฟิล์มกรองแสงจำเป็นจะต้องมีค่าใช้จ่าย สำหรับใครที่ยังรู้สึกว่าสี่งนี้ยังไม่ใช่เร่งด่วนก็ควรมองข้ามไปก่อน เพียงแต่หากต้องการติดตั้งจริงๆ ก็สามารถค่อยๆจ้างช่างมาติดในส่วนกระจกที่มีความจำเป็นเฉพาะจุดได้ เพื่อควบคุมงบประมาณในการจัดติดตั้ง และยังช่วยให้สามารถดูก่อนได้ว่าฟิล์มที่ติดนั้นมีประโยชน์ตามคำกล่าวอ้างจริงแค่ไหนครับ
สรุป
การเลือกฟิล์มกรองแสงให้เหมาะสม และเข้ากับตัวบ้านนั้นจำเป็นจะต้องใส่ในรายละเอียดต่างๆ และเลือกร้านบริการติดตั้งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะตัวฟิล์มนั้นจะอยู่กับบ้านคุณไปอีกนาน หากมีคำถามหรือสนใจในบริการติดตั้งฟิล์มกรองแสงชนิดต่างๆ ก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ SB Sticker เลยครับ