Logo-1400x554-1.png

ข้อเสียของการไม่ได้ติดฟิล์มกันความร้อนในบ้านและอาคาร

ข้อเสียของการไม่ได้ติดฟิล์มกันความร้อนในบ้านและอาคาร

สารบัญเนื้อหา...

วันนี้จะมาพูดถึงการติดฟิล์มกรองแสงกันความร้อนให้กับกระจกใสภายในบ้าน อาคารหรือสำนักงานต่างๆ ว่าหากติดตั้งฟิล์มไปแล้วจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง และหากกระจกใสบ้านคุณยังไม่ได้ติดฟิล์มจะเกิดผลเสียต่อบ้านและผู้อยู่อาศัยอย่างไร ไปดูกัน

ข้อเสียของการไม่ได้ติดฟิล์มกันความร้อนในบ้านและอาคาร

ในปัจจุบันบ้านและอาคารต่างๆ นิยมออกแบบมาให้มีกระจกใสอยู่รอบบ้าน เพื่อช่วยสร้างความสวยงาม เพียงแต่การใช้กระจกบานใสมาทดแทนหน้าต่างแบบเก่า และไม่ได้รับการติดตั้งฟิล์มนั้นอาจส่งผลเสียต่อบ้านในด้านต่างๆได้ ดังนี้

ความร้อนจากแสงแดด

โปรดจำไว้ว่าบ้านหรืออาคารที่มีโครงสร้างเป็นกระจกใสนั้นไม่ต่างอะไรกับพื้นที่โล่งแจ้งที่ไม่อะไรมาบังแสงแดดและความร้อนจากดวงอาทิตย์ แม้ว่ากระจกใสทั่วไปที่ติดอยู่รอบบ้านและอาคารนั้นสามารถที่กะฝุ่นควันได้ แต่ไม่ได้มีความสามารถที่จะป้องกันความร้อนจากแสงแดดนัก ทำให้ช่วงเวลากลางวันฝั่งบ้านที่แสงแดดส่องเข้ามาถึงนั้นจะร้อนมาก และอุณหภูมิภายในบ้านก็จะสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แต่หากทำการติดตั้งฟิล์มกรองแสงแล้วจะช่วยป้องกันความร้อนที่เกิดขึ้นจากแสงแดดที่ได้เป็นอย่างดี โดยทั่วไปแล้วฟิล์มกรองแสงจะมีความเข้มของตัวฟิล์มให้เลือกตั้งแต่แบบป้องกันแสงแดดได้เล็กน้อยด้วยเนื้อฟิล์มชนิด 40% ไปจนถึงแบบหนาที่เนื้อฟิล์มชนิด 80% ที่จะช่วยลดแสงแดดได้มีประสิทธิภาพสูงสุด หรือหากต้องการเป็นแบบสะท้อนแสงอาทิตย์ออกจากตัวบ้านเลยก็สามารถเลือกเป็นฟิล์มปรอทก็ได้

ทุกคนรู้ดีว่าสภาพอากาศของเมืองไทยนั้นร้อนแค่ไหน นับวันจะยิ่งมีแต่ร้อนขึ้นและร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคารจึงมีความสำคัญและจำเป็นมาก ๆ กับโครงสร้างบ้านหรืออาคารที่เป็นกระจกใสเพราะสามารถป้องกันรังสีอินฟราเรดซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้รู้สึกร้อนเมื่อโดนผิวหนัง การติดฟิล์มจึงช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้อย่างเห็นผล ช่วยรักษาอุณหภูมิภายในบ้านหรืออาคารให้เย็นลง ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ร้อน ไม่ทรมาน 

อันตรายจากแสง UV

รู้หรือไม่ว่ารังสี UV เป็นศัตรูตัวร้ายต่อผิวหนังของมนุษย์มากกว่าที่คิด นอกจากในเรื่องของความร้อนจากแสงแดดที่ทำให้อุณหภูมิในบ้านร้อนขึ้นแล้ว อันตรายจากแสงแดดนั้นยังมีในเรื่องของรังสี UV ที่ส่องผ่านทะลุกระจกใสเข้ามาภายในตัวบ้านได้มากถึง 75% หรือหากบ้านของคุณเป็นกระจกสะท้องแสงรังสี UV ก็ยังสามารถทะลุผ่านเข้ามาได้มากถึง 25-50% ทำให้หากผู้อยู่อาศัยสัมผัสเข้ากับรังสีจะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงหรืออันตรายต่างๆได้แก่

  • ริ้วรอยก่อนวัยอันควร
  • ผิวหนังเหี่ยวย่นมากขึ้น
  • ผิวไหม้แดด และใบหน้าหมองคล้ำ
  • หน้าจะเป็นฝ้า มีจุดด่างดำ กระ
  • ส่วนของผิวไวต่อแสงมากขึ้น
  • เกิดอาการแพ้แสง อาจทำให้ระคายเคือง
  • มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้
  • หากถูกแสงแดดส่องเข้ามาโดนดวงตา อาจทำให้เกิดเป็นโรคต้อเนื้อ โรคต้อกระจก และกระจกตาอักเสบได้

ด้วยสาเหตุที่กล้าวมาข้างต้น ทำให้การติดตั้งฟิล์มกรองแสงบ้านและอาคารนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เพราะนอกจากจะช่วยลดความร้อนได้แล้ว ยังจะช่วยในการลดแสง UV ที่ทะลุผ่านกระจกมาได้นั่นเอง

ซึ่งหากบ้านหรืออาคารที่เป็นมีโครงสร้างเป็นกระจกใสแต่ไม่ได้ติดตั้งฟิล์มกันความร้อน ทั้งความร้อนและรังสี UV จากแสงแดดก็จะทะลุผ่านเข้ามาภายในบ้านได้ง่าย ๆ ส่งเสียต่อสุขภาพผิวหนังของผู้อยู่อาศัยได้แม้ว่าจะไม่โดนแดดตรง ๆ ก็ตาม 

สาเหตุที่ไม่ควรติดฟิล์มกระจกบ้านเอง เพราะอะไร

อันตรายและรอยขีดข่วนจากกระจก

แม้ว่าโครงสร้างกระจกจะให้ความสวยงาม หรูหรา ทันสมัย แต่ถ้าไม่ได้ติดฟิล์มกันความร้อนก็อาจมีความเสี่ยงที่จะได้เกิดอันตรายจากอุบัติเหตุกระจกแตก รวมถึงมีโอกาสเกิดรอยขีดข่วนบนเนื้อกระจกซึ่งจะทำให้กระจกดูเก่าและหมอง ไม่สวยใสดั่งที่ควรจะเป็น 

ตัวฟิล์มกรองแสงสามารถช่วยให้กระจกที่ถูกติดอยู่นั้นไม่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย เนื่องจากเนื้อฟิล์มมีสารเคลือบกันรอยข่วนอยู่ นอกจากนั้นหากเกิดอุบัติเหตุกระจกร้าว หรือกระจกแตกออกจะทำให้เศษกระจกไม่กระเด็นออกจากกันนัก สาเหตุเพราะตัวฟิล์มจะทำหน้าที่เป็นกาวคอยยึดติดกระจกในแต่ละชิ้นเอาไว้ ทำให้ช่วยป้องกันอันตรายที่เกิดจากกระจกแตกได้ระดับหนึง

หากบ้านหรืออาคารมีโครงสร้างเป็นกระจกใสก็ควรติดฟิล์มเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะหากเกิดอุบัติเหตุกระจกแตก ร้าว เป็นรอยขีดข่วน การซ่อมหรือเปลี่ยนกระจกใบใหม่นั้นค่อนข้างมีราคาสูง การติดฟิล์มถือเป็นการช่วยลดความเสี่ยงและลดค่าใช้จ่ายตรงจุดนี้ได้

ต้องติดผ้าม่าน และปิดม่านตลอดเวลา  

การตกแต่งอาคารหรือบ้านพักอาศัยด้วยกระจก จุดประสงค์หลักก็เพื่อทำให้มองเห็นทัศนียภาพ และทิวทัศน์ภายนอกได้ชัดเจน เมื่อไม่ได้ติดฟิล์มกันความร้อนและเลือกติดผ้าม่านแทน ทำให้ต้องปิดผ้าม่านตลอดเวลา เพื่อป้องกันแสงแดดและแสงสว่างที่ส่องเข้ามา คราวนี้ก็จะไม่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์สวย ๆ ภายนอกบ้านได้เลย พอเปิดม่านห้องก็ร้อนและสว่างจ้าเกินไปอีก กลายเป็นปัญหาวนเวียนไม่จบสิ้น 

หากเปลี่ยนจากการติดผ้าม่านมาเป็นการติดฟิล์มกันความร้อนกระจกบ้านและอาคาร ปัญหาตรงนี้จะหมดไปอย่างถาวร ไม่ต้องคอยเปิด ๆ ปิด ๆ ผ้าม่าน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ภายนอกบ้านได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ยังไม่ต้องคอยซักทำความสะอาดผ้าม่านอีกด้วย

แสงสว่าง และแสงจ้ารบกวนจอทีวีหรือจอคอม

หลาย ๆ บ้านหรือคอนโดออกแบบให้โซนรับแขก ห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงานมีโครงสร้างเป็นห้องกระจกใสเพื่อให้รู้สึกถึงความกว้างขวาง ปลอดโปร่ง และผ่อนคลาย อย่างไรก็ตาม ห้องกระจกเหล่านี้มักจะเจอปัญหาเรื่องแสงสว่างที่บางครั้งอาจจะมากเกินไปถ้าไม่ได้ติดฟิล์มกระจกบ้านหรืออาคาร 

กรณีมุมทีวีหรือห้องทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ อยู่ในตำแหน่งที่แสงสว่างหรือแสงแดดจากภายนอกส่องถึง แสงสว่างและแสงจ้าจากภายนอก  อาจรบกวนหน้าจอทีวีและจอคอมพิวเตอร์จนเป็นปัญหาต่อการทำงานหรือดูทีวีไม่ได้ มองเห็นภาพไม่ชัดเจนทำให้ปวดหัวหรือปวดตาได้

ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่กระจกเพื่อลดแสงสว่างจ้าไม่ให้รบกวนหน้าจอทีวีหรือจอคอมพิวเตอร์ ช่วยให้มองเห็นภาพในจอทีวีชัดขึ้น ทำงานสะดวกขึ้น ไม่ปวดตา นอกจากนี้ ฟิล์มกรองแสงยังมีระดับความเข้าให้เลือกหลายระดับ ยิ่งเข้มมากก็จะช่วยกรองแสงได้มาก สามารถเลือกให้เหมาะสมกับห้องและวัตถุประสงค์การใช้งานได้ตามต้องการ

เฟอร์นิเจอร์ และผ้าม่านสีซีด  

นอกจากรังสี UV จะเป็นภัยต่อผิวหนังของมนุษย์แล้วก็ยังเป็นภัยกับทั้งเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของตกแต่งภายในบ้านด้วย หากบ้านหรืออาคารที่มีโครงสร้างเป็นกระจกใสแต่ไม่ได้ติดฟิล์มป้องกันความร้อนไว้

แสงแดดและความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ส่องเข้าไปภายใน ส่งผลทำให้เฟอร์นิเจอร์ และผ้าม่านสีซีด ชำรุดเสียหายได้ง่ายและต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง การติดฟิล์มกันความร้อนในบ้านและอาคาร ช่วยยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ และผ้าม่านได้เป็นอย่างดี เพราะในเนื้อฟิล์มมีคุณสมบัติป้องกันรังสีอินฟราเรดและรังสี UV ไม่ให้ทะลุผ่านได้ ช่วยป้องกันความร้อนพร้อมกับปกป้องเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน รวมถึงของตกแต่งบ้านสุดที่รักให้สวยงามเหมือนใหม่ไปอีกนาน

ความเป็นส่วนตัว

เชื่อว่าทุกคนที่มีบ้านหรือคอนโดเป็นของตัวเองก็เพื่อความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย แต่หากบ้านหรือคอนโดของคุณประกอบด้วยโครงสร้างที่เป็นกระจกใส ความเป็นส่วนตัวที่ต้องการอาจหายไปจากความใสของกระจกที่ไม่ได้ติดตั้งฟิล์มกันความร้อน

ถึงแม้ว่ากระจกใสทั่วไปที่นิยมใช้งานกันอยู่นั้น จะมีความสวยงามเพียงใด แต่หากขาดไปในเรื่องของความเป็นส่วนตัว เพราะผู้คนที่เดินผ่านบ้านของคุณไปนั้นสามารถมองทะลุเข้ามาภายในบ้านได้ ทำให้ผู้อยู่อาศัยอาจเกิดความรู้สึกที่ไม่ปลอดภัย หรือไม่เป็นส่วนตัวนั่นเอง

แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยฟิล์มกรองแสงชนิดต่างๆที่ได้มาตรฐาน เพราะตัวฟิล์มนอกจากจะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดและกัน UV ได้แล้วนั้น ยังช่วยทำให้ผู้คนไม่สามารถมองเห็นทะลุกระจกเข้ามาในตัวบ้านได้ในเวลากลางวัน แต่ผู้ที่อยู่ด้านในสามารถมองออกไปเห็นด้านนอกได้

ตัวอย่างเช่นฟิล์มกระจกชนิดปรอทที่สามารถสะท้อนแสงแดดที่ตกกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพ มองภายนอกจะเห็นเป็นภาพสะท้อนคล้ายกระจกเงา ไม่สามารถมองทะลุเห็นภายในบ้านหรืออาคารได้ เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนและไม่อยากให้ใครเห็นภายในบ้านตอนกลางวัน

ค่าไฟ

ค่าไฟกับฟิล์มติดกระจกบ้านและอาคารอาจดูเหมือนเป็นคนละเรื่องกันแต่ความจริงแล้วทั้งสองปัจจัยนี้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกันอยู่คือเรื่องของอุณหภูมิ ค่าไฟที่เพิ่มขึ้นมีตัวแปรมาจากอุณหภูมิภายในบ้านหรืออาคารที่สูงขึ้นจนทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักเพื่อคอยปรับและรักษาอุณหภูมิภายในบ้านให้เย็นอยู่ตลอดเวลา

หากบ้าน หรืออาคารที่มีกระจกอยู่เยอะและไม่ได้รับการติดตั้งฟิล์มกรองแสงนั้นจะทำให้ค่าไฟที่ต้องใช้จ่ายในแต่ละเดือนสูงกว่าบ้านที่ติดตั้งฟิล์มกรองแสงไปแล้ว สาเหตุมาจากการที่เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศภายในบ้านนั้นจะไม่ต้องทำงานหนักเนื่องจากตัวบ้านมีอากาศ หรืออุณหภูมิที่ต่ำลงจากการสะท้องแสงแดดออกไปด้วยคุณสมบัติของฟิล์มกรองแสงทำให้กำลังไฟที่ต้องใช้งานก็จะน้อยลงไปด้วย เป็นการช่วยประหยัดพลังงานและประหยัดค่าไฟอย่างยั่งยืน และยังเป็นการถนอมเครื่องปรับอากาศไปพร้อมกันด้วย

ความสวยงาม

แม้ว่าบ้านหรืออาคารที่มีโครงสร้างเป็นกระจกใสจะดูสวยงาม หรูหรา ทันสมัย แต่ถ้าโครงสร้างกระจกเหล่านั้นเป็นกระจกเปล่า ๆ ที่ยังไม่มีการติดตั้งฟิล์มกันความร้อน บางครั้งก็อาจให้ความรู้สึกเหมือนบ้านหรืออาคารหลังนั้นยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อยดี ดูโล่งและใสเกินไป ซึ่งส่งผลมาถึงความสวยงามที่ลดลงเมื่อมองในภาพรวม

ตัวฟิล์มกรองแสงแต่ละชนิดนั้นมีสีที่ต่างกัน และความมืด หนา บาง เบาไม่เหมือนกัน ทำให้เมื่อติดลงไปบนกระจกและนั้นทำให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น เพียงแต่การเลือกฟิล์มแต่ละชนิดควรดูความเหมาะสมของการใช้งาน และความเข้ากันต่อรูปลักษณ์และความสวยงามของตัวบ้านด้วย

กระจกเสื่อมสภาพเร็วกว่า

กระจกเสื่อมสภาพเร็วกว่า

การไม่ติดฟิล์มกันความร้อนที่กระจกหลาย ๆ คนอาจจะมองว่ามันไม่ได้สำคัญอะไร แต่หารู้ไม่ว่าความจริงแล้ว กระจกหน้าต่างและประตูเองต่างก็มีอายุการใช้งานที่จำกัดเนเดียวกัน และเมื่อมันถูกแสงแดดสะท้อนเข้าหาทุกวัน ๆ แน่นอนว่ามันก็จะยิ่งเสื่อสภาพและมีความคงทนที่น้อยลงอย่างแน่นอน ซึ่งก็จะต่างจากการติดฟิล์มกันความร้อนที่ตัวกระจกนั้นก็จะได้รับการป้องกันอีกหนึ่งชั้น ซึ่งนับว่ามีความคุ้มค่าในขณะเดียวกัน

เกิดฝ้าที่กระจกได้ง่ายกว่า

เวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยก็จะทำให้อากาศที่เข้ามาสู่ตัวกระจกนั้นเกิดเป็นฝ้าเป็นปื้น ๆ หรืออาจจะมีไอน้ำเกิดขึ้นได้ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะส่งผลให้ทำความสะอาดยากไปได้ในตัว และเกาะเป็นคราบฝังแน่นอีกด้วย

สรุป

เห็นได้ชัดว่าบ้าน อาคาร หรือคอนโดสูงที่มีโครงสร้างเป็นกระจกถ้าไม่ได้ติดฟิล์มกันร้อนแล้วจะมีปัญหาหลายอย่างตามมาแน่นอน ซึ่หลาย ๆ ปัญหาล้วนส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพ คุณภาพชีวิต การอยู่อาศัย ไปจนถึงค่าไฟ และความสวยงาม จึงไม่ใช่เรื่องดีแน่ถ้าปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้ยังคงอยู่ต่อไป

เพื่อป้องกันปัญหาทั้งหมดนี้บ้านและอาคาร หรือสำนักงานต่างๆที่มีกระจกใสเยอะๆนั้นจำเป็นที่ต้องทำการติดตั้งฟิล์มกรองแสงเพื่อช่วยลดความร้อน และป้องกันแสง UV ที่เป็นภัยต่อผู้อยู่อาศัย นอกจากนั้นหากต้องการเพิ่มความเป็นส่วนตัว และป้องกันไม่ให้ผู้คนภายนอกรู้ว่าข้างในทำอะไรกันอยู่ก็สามารถใช้เป็นฟิล์มกรองแสงชนิดเข้มเพื่อแก้ไขปัญหาในส่วนนี้ได้

รวมทั้งหากต้องการเพิ่มความสวยงาม หรือใช้เพื่อการตกแต่งบ้านก็ยังสามารถทำได้ เพราะฟิล์มกรองแสงแต่ละรุ่น แต่ละชนิดนั้นจะสีของเนื้อฟิล์มที่แตกต่างกันออกไป สามารถเลือกสีให้กลมกลืนกับสีของตัวบ้านหรืออาคาร หรือใช้สีที่อยู่ในโทนเดียวกันเพื่อความเหมาะสม กลมกลืน และสวยงาม ขณะเดียวกัน หากเบื่อสีเดิม ๆ ก็สามารถลอกเปลี่ยนฟิล์มแผ่นใหม่ได้อย่างสะดวกรวดเร็วโดยไม่ส่งผลเสียต่อเนื้อกระจก สร้างความสวยงามและความโดดเด่นให้กับบ้านหรืออาคารได้ หรือหากต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงบ้านและอาคารเพิ่มเติมก็สามารถติดต่อได้ที่ https://thaifilmsb.com/