การทำงานที่บ้าน (Work From Home) มีข้อดีมากมาย แต่ปัญหาคลาสสิกที่หลายคนหนีไม่พ้นคือ แสงแดดที่ส่องเข้ามาจนเกิดแสงสะท้อนบนหน้าจอ
ปัญหานี้สร้างความรำคาญ ทำให้ปวดตา และลดทอนสมาธิในการทำงานลงอย่างมาก การแก้ปัญหาด้วยการปิดม่านตลอดวันก็ทำให้ห้องดูอึดอัดและขาดแสงสว่าง
จบปัญหาด้วย “ฟิล์มกรองแสงลดแสงจ้า”
ฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูง คือทางออกที่ตรงจุดที่สุด เพราะถูกออกแบบมาเพื่อลดปริมาณแสงจ้า (Glare Reduction) ที่ส่องผ่านกระจกโดยเฉพาะ
เมื่อแสงจ้าลดลง ภาพบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กของคุณจะคมชัดขึ้นทันที คุณจึงทำงานได้อย่างสบายตาโดยไม่ต้องคอยหยีตาหรือขยับหามุมหลบแสงอีก
ข้อดีคือ คุณยังคงมองเห็นวิวภายนอกและได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติ โดยไม่ต้องปิดม่านให้ห้องมืดทึบ
เลือกฟิล์มสำหรับ Home Office อย่างไรให้ตอบโจทย์?
การเลือกฟิล์มที่ใช่สำหรับห้องทำงานไม่ใช่เรื่องยาก ทีมงาน SB Sticker มีเคล็ดลับง่ายๆ มาฝากครับ
- มองหาคุณสมบัติ “ลดแสงจ้า” (Glare Reduction)
ฟิล์มแต่ละรุ่นจะมีค่าการลดแสงจ้าไม่เท่ากัน ยิ่งค่านี้สูง ก็ยิ่งช่วยให้การมองหน้าจอสบายตามากขึ้น - เลือกค่าแสงส่องผ่าน (VLT) ให้พอดี
หากโต๊ะทำงานอยู่ติดหน้าต่างที่รับแดดเต็มๆ อาจเลือกฟิล์มที่เข้มขึ้นเล็กน้อย (ค่า VLT ต่ำ) เพื่อความสบายตาสูงสุดแต่ถ้ายังต้องการความโปร่งสบาย ฟิล์มใสคุณภาพสูงที่เน้นลดแสงจ้าและกันความร้อนก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน - ทีมงาน SB Sticker แนะนำ “ฟิล์มเซรามิค”
ฟิล์มประเภทนี้กันความร้อนได้ดีเยี่ยมโดยไม่จำเป็นต้องมีสีเข้มหรือเงาเหมือนฟิล์มปรอท จึงช่วยลดแสงจ้าได้ แต่ยังคงให้ทัศนวิสัยที่ชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน
ประโยชน์ที่ได้มากกว่าแค่การทำงาน
การลงทุนติดฟิล์มกรองแสงให้ห้องทำงานของคุณ ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องลดแสงสะท้อน แต่ยังมาพร้อมข้อดีอื่นๆ อีกมากมาย
- ลดความร้อนในห้อง: ช่วยให้บรรยากาศการทำงานเย็นสบายขึ้นอย่างชัดเจน และยังช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลง ประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย
- ป้องกันรังสี UV 99%: ปกป้องผิวของคุณรวมถึงป้องกันไม่ให้เฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ในห้องทำงานซีดจางก่อนเวลาอันควร
เปลี่ยนห้องทำงานของคุณให้สมบูรณ์แบบ
ให้การทำงานที่บ้านของคุณเป็นช่วงเวลาที่มีประสิทธิภาพและมีความสุขที่สุด โดยไม่ต้องทนกับปัญหาแสงสะท้อนกวนใจอีกต่อไป
ทีมงาน SB Sticker ยินดีให้คำปรึกษาและนำตัวอย่างฟิล์มไปให้เทียบถึงที่ เพื่อเลือกฟิล์มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Home Office ของคุณ